โอทอป..อดีต..ปัจจุบัน..อนาคต @ ขอนแก่น (ตอนที่ 3-5)
คอลัมน์ “รู้จริง ถิ่นเฮา”
….เรื่องเล่า อ่านสนุก ซอกมุมของบรรพบุรุษ และมองออกไปเบื้องหน้า ในบริบทของ เศรษฐกิจ สังคม การเมือง เมื่อทุกเรื่องม้วนร้อย เป็นมิติเดียวกัน เหลืองสะพรั่งของดอกคูน และ เสียงแคน แล่นแต้ มาแล้ว………….
สินค้าโอทอป ควรถูกหรือแพง ล่ะ ??
ไปกันต่อนะ… มีอดีต มีการแยกกลุ่มความแตกต่างของสินค้า ที่ผลิตด้วยเครื่องจักรในโรงงาน ด้วยวิชาชีพของบรรพบุรุษ และภูมิปัญญาท้องถิ่น
ในทางการบริหารงาน เรารู้กันดีว่า สินค้า ควรมีการตลาดนำ ซึ่งหมายถึง มี ดีมานด์ และซัพพลาย เข้ามาเป็นตัวกำกับ ส่งผลด้านราคา ของที่มีคนอยากได้เยอะ แต่ มีน้อยชิ้น ย่อมต้องแย่งกันซื้อ ราคาย่อมสูงขึ้น และในทางตรงข้าม สินค้านั้นไม่มีใครอยากได้ ค้างสต็อก ราคาก็ด้อยค่า ตาชั่งสองข้าง จึงเป็นอย่างที่เราเห็น
สินค้า ติดตลาด มีแบรนด์ที่เข้มแข็ง หนุนด้วยแคมเปญการตลาด แบบโดนใจลูกค้า ที่เรียกกันว่า Marketing Impact กระแทกใจ มีเท่าไหร่ ขายเกลี้ยง….
ทุนมาก ทำงานได้มาก ทุนน้อย ก็ตามที่มีกำลัง สินค้าอุตสาหกรรมผลิตคราวละมากๆ ย่อมถูกลง แบบเหมาโหลถูกกว่า แต่กับงานฝีมือ ที่ต้องใช้เวลา ละเมียด ละมัย ปราณีต ย่อมถูกกำหนดราคาต่างกัน
ต้นทุน ค่าแรงการทำงาน คำนวนเป็น ชั่วโมงการทำงาน ทุกอย่างล้วนเป็นต้นทุน ที่คิดออกมาเป็นตัวเงินได้ ใช่ไหม….แต่คนไทย ใจดี๊ดี… เอื้อเฟื้อ มีน้ำใจ การคำนวนต้นทุน จึงลืมนึกถึงค่าแรง ค่าเสียโอกาสของตัวเอง ลืมคิดลงไปในต้นทุนการผลิต รวมทั้งของบางอย่าง รัฐบาลก็เป็นผู้จัดสรรให้ ซะเอง…โครงสร้างการคำนวนราคา จึงบูดเบี้ยว…อย่างที่เห็นแหละ…..
จะว่าไปแล้ว การเกิดขึ้น ของสินค้าโอทอป เมื่อปี 2544 ได้รับการประคบ ประหงม เป็นอย่างดี จนอาจเป็นการเคยชิน ที่พวกเขายังต้องการ พี่เลี้ยง หรือ พี่เลี้ยง ไม่ยอมเลิกประกบซักกะที
บนเวทีการค้าสากล สินค้าที่ผลิตด้วยมือ ที่ฝรั่งเรียกว่า Hand made นั้น พวกเขาให้ราคามากกว่าเครื่องจักรผลิต อะไรที่ Hand made เป็นอันว่า ทึ่งงง…อึ้ง ยิ่งแพง ยิ่งต้องซื้อ..
วกกลับมา 360 องศา… ลองถามกันใหม่ ซิ ว่า คุณๆ คิดยังไง กับสินค้าโอทอป ถูกแล้ว ยังถูกได้อีก รึ เปล่า ล่ะ…แล้วพวกเขา จะเหลืออะไรในชีวิตกัน…
มิได้ คาดหวังว่า สินค้าโอทอป ที่มีเส้นทางเดินมาเกือบ 20 ปี จะพลิกฝ่ามือ มีราคาแพงขึ้นบัดดล แต่อยากให้ช่วยกันมองลง เชิงลึกว่า หากสินค้าของพวกเขา ได้รับการตอบสนอง ด้านราคา แลกกับการดำรงคงอยู่ ของภูมิปัญญา เส้นทางเดิน ย่อมยั่งยืน การสืบสานจึงมีความหวัง เพราะพวกเขาใช้เลี้ยงชีพได้
ในโลกธุรกิจ ยุคปัจจุบัน ไม่มีอะไรที่มากเกิน น้อยเกิน สังคมจะสร้างสมดุลตัวเอง คำตอบของราคาสินค้า โอทอป ว่า ควรถูก หรือแพง จึงเป็น คำตอบ ที่หลายคน รู้กันอยู่แล้ว คือ ควรสมดุล ต่างว่า สมดุลในใจ ใครกันเล่า….
โปรดติดตาม กลยุทธ์ ที่เป็นแนวคิดของการทำงานที่ อาจไม่ต้องใช้ “เงิน “ เป็นตัวตั้ง แต่ใช้ “ ใจ “ เป็นแกนนำ พูดง่าย แต่จะทำได้ไหม…ท้าทาย จัง…..
