ข้าวทำชา@ขอนแก่น
คอลัมน์ “รู้จริง ถิ่นเฮา”
….เรื่องเล่า อ่านสนุก ซอกมุมของบรรพบุรุษ และมองออกไปเบื้องหน้า ในบริบทของ เศรษฐกิจ สังคม การเมือง เมื่อทุกเรื่องม้วนร้อย เป็นมิติเดียวกัน เหลืองสะพรั่งของดอกคูน และ เสียงแคน แล่นแต้ มาแล้ว………….
เมืองไทยปลูกข้าว ไว้กินเอง พอปลูกมากขึ้นก็ส่งออกขายต่างประเทศ ความอุดมสมบูรณ์ ทำให้คนไทยมีข้าวกินเป็นอาหารหลัก ตั้งแต่บรรพบุรุษ จึงมีคำว่า “กินข้าว กินปลา” เพราะในน้ำมีปลา ในนามีข้าว
ไทย (เคย) เป็นแชมป์อันดับหนึ่งของผู้ส่งออกข้าวไปขายทั่วโลก ต่อมาเสียแชมป์หลังยุคนโยบายประกันราคา รับซื้อข้าวทุกเม็ด ในราคาตันละ 15,000./ ตัน จนกลายเป็นความเสียหายมากกว่าเจ็ดแสนล้านบาท วันนี้ จึงแปรรูปกลายเป็นงบประมาณอุดหนุนผ่านไปที่ธนาคารการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร-ธกส. ปีละราว 70,000./ ล้านบาท เป็นเวลา 16 ปี รวด เฮ้อ…
กลับมาคุยกันวงเล็ก กันเถอะ… เรื่องข้าว เพราะยังไง ชาวนาก็ยังคงต้องปลูกข้าว กันต่อไป กินข้าวกันทุกวัน ลองหันมา จิบชา จากข้าวกันบ้างปะไร…
คุณเปรม-สิริกร ปัญญภัทร วัย 47 เจ้าของชาข้าวหอม หรือ ทีไรซ์ “Sirilife “ ใช้ชื่อตัวเองนี่แหละเป็นแบรนด์ จำง่ายและแสดงความเป็นเจ้าของ
สรรพคุณของ “ชา” ที่ทำจากข้าวหอม เป็นการสกัด ข้าวจาก 3 สายพันธุ์ คือ ข้าวไรซ์เบอรี่ ข้าวทับทิมชุมแพ และ ข้าวกล้องหอมมะลิ
นักวิจัย ช่วยทำงาน จนสกัดได้สารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย อาทิ สารช่วยควบคุมแป้ง-น้ำตาล และขับออกจากร่างกาย ยิ่งจิบชาชุดนี้ จึงทำให้ร่างกายทำความสะอาดตัวเอง ได้ดีขึ้น
นอกจาก ชาที่ทำจากสารสกัดจากข้าว แล้ว ยังมีการประยุกต์ นำสมุนไพร อีกหลายชนิด เข้ามาผสมผสาน เป็นศิลปะ การชงชา ที่หลายคนหลงไหล คือ “เบลนด์ชา “
คนยุคนี้ ดูแลสุขภาพ เครื่องดื่ม จึงมีความปราณีต คำนึงถึงประโยชน์ที่จะได้รับ อาจมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ผู้บริโภคขยันหาข้อมูล และเข้าถึงได้ง่าย สินค้าจึงเป็นตลาดของผู้บริโภค โดยแท้
ก่อนจะมาเป็นชา “Sirilife “ คุณเปรม เธอช่างเล่าเรื่องงานของเธอ แบบสนุกสนาน ตามสไตล์นักการตลาด ผู้มากประสบการณ์
เล่าว่า… บิดาเป็นชาวอำเภอชนบท ขายสมุนไพร จึงจำภาพการผสมยาของบิดา มาถึงวันนี้ เธอจึงขยายภาพนั้นมาเป็นตัวเอง ที่ลงมือชงชา จากสมุนไพรหลายชนิด จึงกลายเป็นอาชีพที่สนุกในอารมณ์ของนักขายมือทองอย่างเธอ
หลังจบอาชีวะ ในจังหวัดขอนแก่น ก็ออกขายผ้าไหม ผ้าฝ้าย จากฝีมือการทอของมารดาและแม่ๆจากชุมชน ตระเวน ตระรอน หิ้วตระกร้าเดินเข้าไปขายตามออฟฟิต ได้ความเอ็นดู จากพี่ๆ จนได้พื้นที่ขายผ้าไหม ในสนามบินขอนแก่น รายแรกๆ-ภูมิใจ มาก ขอจารึกไว้เป็นควาทรงจำของตัวเอง และเคยช่วยขายงานสื่อในเครือสมัย คุณสุทธิชัย หยุ่น-แห่งค่ายเนชั่น เล่าแล้วยังมีอาการปลื้มๆอยู่เลย
การนำ ข้าวมาสกัด หรือแปรรูป ช่วยเพิ่มมูลค่าของข้าว จากราคาเกวียนละหลักพัน อาจกลายเป็นหลักหมื่น เมืองไทยนี้ ดีหนักหนา… มีวัตถุดิบดาษดื่นกระจายตัวไปทั่วประเทศ หากนำมาบริหารจัดการ ให้เพิ่มมูลค่า ดีกว่านำไปเทกอง เป็นไหนๆ
มาดื่มชา จากข้าว กันไหม…..
คุณเปรม-สิริกร ปัญญภัทร วัย 47 เจ้าของชาข้าวหอม หรือ ทีไรซ์ “Sirilife “ ใช้ชื่อตัวเองนี่แหละเป็นแบรนด์ จำง่ายและแสดงความเป็นเจ้าของ
รางวัล อีกชิ้นที่สร้างความมั่นใจ กับสินค้าจากมันสมองคนไทย
ศิลปะ การดื่ม ชาจากข้าว ใช้ศิลปะ ที่ดื่มด่ำ ได้ เช่น ชาจากสมุนไพร อื่นๆ
ทุ่งทิว ต้นข้าว หากนำมาแปรรูป ย่อมเพิ่มมูลค่า
