รถอีโก่ง อ่อมไก่บ้านในลำไผ่ และมังกรแห่งภูผาม่าน
คอลัมน์ “รู้จริง ถิ่นเฮา”
โดย “น้องดอกคูน”
….เรื่องเล่า อ่านสนุก ซอกมุมของบรรพบุรุษ และมองออกไปเบื้องหน้า ในบริบทของ เศรษฐกิจ สังคม การเมือง เมื่อทุกเรื่องม้วนร้อย เป็นมิติเดียวกัน เหลืองสะพรั่งของดอกคูณ และ เสียงแคน แล่นแต้ มาแล้ว………….
^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^
รถอีโก่ง อ่อมไก่บ้านในลำไผ่ และมังกรแห่งภูผาม่าน
เปิดม่านคอลัมน์ป้ายแดง แบบเอี่ยมๆ ให้เก๋ไก๋ อย่างที่ ททท.เขามีแคมเปญ “ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋อย่างยั่งยืน” อย่างน้อยให้เศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชน คนกันเอง เพียงแค่คนในอำเภอเมืองแวะไปทักทายพี่น้องชาวเมืองดอกคูน ด้วยกันเอง ทั้ง 26 อำเภอ ก็ปลื้มกันแล้วนะ
“น้องดอกคูน” จึงขอทำหน้าที่ พาเที่ยว พาชิม ช็อป สัมผัสวิถีเมือง และเล่าเรื่องในเมืองดอกคูน….
หนาวนี้ เห็นทีจะต้องวิ่งหาที่หนาวๆไปนอนดูดาว จิบชาอุ่นๆ กับคนรู้ใจ ไม่ไกลจากตัวเมือง ที่อำเภอ “ภูผาม่าน” ระยะทาง 109 กิโลเมตร
อำเภอภูผาม่าน ตั้งอยู่ตามชัยภูมิ ทิศตะวันตก ติดกับพื้นที่ของจังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดเลย ภูมิอากาศจึงคล้ายคลึงกัน มีอุทยานแห่งชาติภูผาม่าน เป็นจุดขาย อากาศดี มีประชากร ราว 25,000 คน กระจายตัวเป็นชุมชนกันไปตามลาดเขา มีภูผาเป็นฉากสวย หินเนิน สลับกัน ปลูกพืชได้ตามชายน้ำที่ไหลเอื่อย รินแรงตามฤดูกาล เหมือนมีวาวน้ำเปิดก๊อกได้ ในฤดูฝน ไหลซู่ไม่ขาดสาย และรี่เบาหยดหยุด ยามหน้าแล้ง
พืชผักของชาวบ้าน
ความขยันของราษฏร์บ้านนี้ พบเห็นได้จากการ มีรถปิ๊กอัพจอดไว้เกือบทุกบ้าน เมื่อมีผู้นำชุมชน อย่าง “เดอะห้อย”-กำนัน คนขยัน ลุกขึ้นพาชุมชน มาขายการท่องเที่ยวแนววิถีชุมชน มีบริการนอนเต้นท์ ให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนได้สัมผัสอากาศดี มีบริการนั่งรถอีโก่ง-รถไถนา ที่ดัดแปลง ให้มีผู้โดยสารนั่งได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ราวสัก 6-7 คน ต่อคัน
บริการนั่งรถอีโก่ง-รถไถนา ที่ดัดแปลง ให้มีผู้โดยสารนั่งได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
มีบริการอาหารแบบพื้นบ้าน ตัดลำไผ่ มาแทนหม้อ ใส่อ่อมไก่บ้าน เผาจนสุกหอมๆ แล้วนำมาใส่ไม้ไผ่ เสริฟร้อน ซดความแซ่บ ออกเปรี้ยวๆ เป็นแกงป่าประเภทหนึ่ง กลมกล่อม สมบรรยากาศ จุดขาย ที่ถูกใจขาเฮ้ว..แนวแอดเวนเจอร์ คือ การกระโดดขึ้นรถอีโก่ง สนุกอีตรงที่ต้องตลุยขึ้น-ลงเนินหิน ให้ได้กรี๊ดกันลั่นทุ่ง…
อ่อมไก่บ้านในลำไผ่
อีกจุดขาย ที่อาจกลายเป็นสัญญลักษณ์ของอำเภอนี้ คือ ค้างคาว นับล้านๆตัว ที่บินออกจากถ้ำ ออกหากินยามโพล้เพล้ แหงนมองเป็นสายแนวยาวสีดำบนโค้งท้องฟ้า พริ้วลมปีก ขยายเคลื่อนตัวประหนึ่ง “มังกร” ขยับตัว จนมีฉายาว่าเป็น “มังกรแห่งภูผาม่าน” นายอำเภอภูผาม่าน-พยุง เหล็กดี วัย 52 นายอำเภอป้ายแดงที่ขยับมาขึ้นรับตำแหน่ง เมื่อ 14 เดือนที่ผ่านมา บอกว่า ถึงจะเป็นนายอำเภอภูผาม่าน แต่ยังไม่ได้ทำทะเบียนค้างคาวไว้เลยว่า มีสักกี่ล้านตัว….ฮา
มังกรแห่งภูผาม่าน-ค้างคาว นับล้านๆตัว ที่บินออกจากถ้ำ
บรรยากาศของอุทยาน ที่มี ต้นไม้ เนินเขา ภูผา และน้ำตก อากาศดี มีพื้นราบเป็นย่อมๆ ชาวบ้านแสนขยัน จึงปลูกพืชผักไว้หลายประเภท พวกเขาแบ่งงานกันทำ คนรุ่นตาปู่ ลงมือปลูก รุ่นลูกหลาน ช่วยกันทำตลาด ขายในเมืองบ้าง ขายผ่านคนกลางบ้าง และปรับไปตามความนิยมของลูกค้า ดินดี น้ำถึง อาทิ กระหล่ำปลี แตงกวา มะเขือเทศ กล้วยหอมทอง มะละกอ ถั่วแดง-เม็ดเล็ก อวบอิ่ม เต็มพื้นที่
หากคนเมืองจะอุดหนุน ไปเยือนยามกันบ้าง จะเป็นปลื้ม ที่ “รู้จริง ถิ่นเฮา” เชียวล่ะ…
แล้วพบกับเรื่องใหม่พฤหัสบดีหน้า