เลือดดี ไม่มีขาย   


15 พฤศจิกายน 61 10:05:02

คอลัมน์  “รู้จริง ถิ่นเฮา”
โดย “น้องดอกคูน”
….เรื่องเล่า อ่านสนุก ซอกมุมของบรรพบุรุษ และมองออกไปเบื้องหน้า ในบริบทของ เศรษฐกิจ สังคม การเมือง เมื่อทุกเรื่องม้วนร้อย เป็นมิติเดียวกัน  เหลืองสะพรั่งของดอกคูณ และ เสียงแคน แล่นแต้ มาแล้ว…………. พบเรื่องใหม่ทุกวันอังคาร และวันพฤหัสบดี

^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^

คุณๆ เคยล้มเจ็บ จนเข้าโรงหมอ บ้างไหม ? เคยให้เลือดไหม? และเคยสงสัยไหมว่า เลือดที่เราได้รับนั้น มายังไง ? หาซื้อได้ตามสะดวกซื้อไหม ….เคยได้ยินไหม…รับเลือดสักถุงไหมค๊ะ….
 
ระบบการทำงานของร่างกายมนุษย์ น่ามหัศจรรย์มาก เปลี่ยนอาหารที่กินเข้าไปในกระเพาะให้เป็นพลังงาน เส้นเลือดเดินหล่อเลี้ยงร่างกาย วิ่งเข้า-วิ่งออก ฟอกเลือดดี หล่อเลี้ยงทุกอวัยวะ  ทำงานอย่างสอดรับกัน แต่ยามใดที่อวัยวะชิ้นใดทำงานผิดปกติ อาการร่วนก็อาจเกิดขึ้นได้
 
เคยสงสัยไหมว่า เรามักจะเห็นคำว่า “บริจาคอวัยวะ” ซึ่งหมายถึง การให้โดยไม่ประสงค์สิ่งใดกลับคืน ไม่เคยพบคำประกาศว่า “ ขายอวัยวะ” เลย ใช่ไหม…..
 
การขายอวัยวะของร่างกาย  หรือขายเลือด ไม่สามารถทำได้ เป็นกฏหมายระดับสากล ที่ยอมรับกันทั่วโลก ว่า “ผิดกฏหมาย” ผิดจรรยาบรรณ ทำไม่ได้ทุกประตู แบบเด็ดขาด
 
แล้ว “เลือด” ที่ใช้การอยู่ตามโรงพยาบาลล่ะ มาจากไหนกัน ?.....
 
เมื่อมนุษย์ ยังต้องใช้ชีวิต มีเลือดเนื้อ ยามเจ็บไข้ ยามเกิดอุบัติเหตุ เภทภัย การให้เลือด จึงมีความจำเป็นทางการแพทย์ หน่วยงานเดียวในประเทศไทย (และทั่วโลก) คือ สภากาชาดไทย หรือกาชาดสากล-ทำหน้าที่นี้ เช่นกัน
 
สภากาชาดไทย เป็นองค์กรที่มีสิทธิ เป็นหน้าที่ ที่จะแสวงหา “เลือด” เพื่อช่วยเหลือมวลมนุษยชาติ และส่งผ่านการทำหน้าที่ รับบริจาคโลหิต ไป ภาคบริการโลหิต  และส่งต่อยังโรงพยาบาลรัฐบาล
 
การทำงานของการบริจาคโลหิตในนครขอนแก่น โดย ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 6 สภากาชาดไทย ทำงานร่วมกับโรงพยาบาลแห่งรัฐ อีก 2 แห่ง คือ คลังเลือด โรงพยาบาลขอนแก่น และคลังเลือดกลาง คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 
 
เราจึงเห็นหน่วยรับบริจาคโลหิต ตระเวนไปตามที่ต่างๆ เพื่อรวบรวมโลหิตเก็บเข้าสู่คลังเพื่อใช้งานกระจายไปตามโรงพยาบาลรัฐ-เอกชน
 
คนเราใช่ว่าทุกคนจะสามารถเป็นผู้บริจาคโลหิตได้นะ เพราะต้องเป็นผู้ที่มีความพร้อมของร่างกาย มีข้อห้ามหลายข้อ แต่สำหรับผู้ที่ร่างกายพร้อม-จิตใจพร้อม เป็นผู้ให้ พวกเขาจึงมีความตั้งใจที่จะบริจาคโลหิตในกายให้กับเพื่อนมนุษย์ เป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ มากเกินคำบรรยายใดๆ
 
นายสมเดช คันธชุมภู อายุ 62 ปี  รับถ้วยเชิดชูเกียรติ จาก ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล-ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ในฐานะผู้สร้างสถิติ การบริจาคโลหิต จำนวนครั้งมากที่สุด คือ 291 ครั้งนายสมเดช คันธชุมภู อายุ 62 ปี  รับถ้วยเชิดชูเกียรติ จาก ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล-ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ในฐานะผู้สร้างสถิติ การบริจาคโลหิต จำนวนครั้งมากที่สุด คือ 291 ครั้ง
 
ในนครขอนแก่น มีผู้ที่ทำสถิติบริจาคโลหิต  จำนวนครั้งมากที่สุด  คือ  291 ครั้ง คือ นายสมเดช คันธชุมภู อายุ 62 ปี  เมื่อคำนวนย้อนกลับ ที่ต้องเว้นวรรคทุกสามเดือน ให้ร่างกายผลิตเลือดขึ้นมาทดแทน ทุกๆ 3 เดือน พบว่า เขาเริ่มบริจาคโลหิต ตั้งแต่อายุ ราว 38 ปี 
 
สถิติ การบริจาคโลหิต น่าสนใจข้อมูล แนวคิดของพวกเขา ที่มักจะทำเป็นกิจวัตรทุกๆ 3 เดือน  จนพบว่ามีสถิติ ผู้บริจาคมากกว่า 150 ครั้ง ขึ้นไปมากกว่าหลักร้อยคน
 
เมื่อเข้าใจ เส้นทางของการบริจาคโลหิต หลายท่านสบายใจ หลายท่านให้ความร่วมมือ เป็นทั้งอาสาเป็นผู้บริจาคเอง และช่วยชักชวนเพื่อนๆมาบริจาคเลือด
 
ว่ากันว่า การบริจาคเลือด ประหนึ่งการมอบชีวิตให้อีกหลายชีวิต สักวัน เราอาจเป็นผู้ ต้องการเลือดเพื่อต่อชีวิต ได้ เช่นกัน…... แต่เลือดดีๆ ไม่มีขาย มีแต่ความดีที่จะนำมาแลกไป……






เว็บโฮสติ้ง

เว็บโฮสติ้ง   Cloud Web Hosting   Streaming Server   VPS