(เก็บตก) ห้องเรียนนักลงทุน@ขอนแก่น

2 พฤษภาคม 62 09:56:20

คอลัมน์ “รู้จริง ถิ่นเฮา”
โดย “น้องดอกคูน”
….เรื่องเล่า อ่านสนุก ซอกมุมของบรรพบุรุษ และมองออกไปเบื้องหน้า ในบริบทของ เศรษฐกิจ สังคม การเมือง เมื่อทุกเรื่องม้วนร้อย เป็นมิติเดียวกัน เหลืองสะพรั่งของดอกคูณ และ เสียงแคน แล่นแต้ มาแล้ว…………. พบเรื่องใหม่ทุกวันอังคาร และวันพฤหัสบดี

^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^

ขอทำการขยายผล เพราะบางท่าน และอีกหลายท่าน พลาดห้องเรียนนักลงทุน ดูว่าเป็นเรื่องธรรมดามั่กมาก แต่ลองตรองดู…ชีวิตนี้ หากไม่มีเงินสักบาทเดียว เราจะอยู่ได้อย่างไร ?

ยุคสมัยของคนอายุยืนยาวขึ้น ยิ่งต้องวางแผน จะเก็บผักหญ้า ริมรั้วกิน คงไม่ได้แล้ว เพราะมีคอนโด ขึ้นแน่นไปหมด วิถีชีวิตย่อมเปลี่ยนไป….

สองวัน สองเรื่อง ที่น่าสนใจเก็บตกมาฝากกัน คือ เรื่อง การวางแผนทางการเงิน และ การวางแผนการลงทุน กิจกรรมเขาจัดกันไปแล้ว เมื่อ 27-28 เมษายน ที่ผ่านมา ที่คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ฟัง-อ่าน เข้าใจกันง่าย-สั้น คนยุคนี้ สมาธิน้อย ถึงน้อยมาก การเข้าถึงจึงต้องปรับ กระบวนทัศน์ เพื่อให้ผู้รับสาร เข้าถึง เข้าใจ นำไปใช้งานได้บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายของหน่วยงานที่เป็นเจ้าของงาน

การวางแผนทางการเงิน ดูว่าเป็นเรื่องยาก แค่ คำว่า “วางแผน ” ก็ดูว่าห่างไกลกับ คนบ้านๆอย่างเราซะแล้ว..ใช่ไหม…แต่ความจริง มันคือ การช่วยทบทวน คิดทบทวนนิดเดียวว่า เรามีรายได้มากจากไหน วันๆ ใช้จ่ายอะไรไปบ้าง ซื้ออะไรกิน ซื้ออะไรใช้ และเพื่อไม่ให้ลืม ก็ให้บันทึกลงสมุด สักเล่ม พอสิ้นเดือน ก็รวมตัวเลข ว่าใช้เงินไปทำอะไรบ้าง เราจะเห็นทันทีว่า แต่ละเดือน เราจ่ายค่าอะไร เช่น ซื้อหวย 200 ( แต่ถูกกิน-ไม่ถูกเบอร์ ใช่ไหม) ซื้อบุหรี่ ซื้อเหล้า ซื้อผงซักฟอก น้ำปลา ปลาร้า และอื่นๆ

รายรับของตัวเอง รายจ่ายของตัวเอง ก็จะเห็นความเคลื่อนไหวของเงินวิ่งเข้า-วิ่งออก จากกระเป๋า สิ่งไหนที่พอลด-ละ-เลิกได้ นั่นแหละ จะกลายเป็นเงินเก็บ เงินออม

ข้อสำคัญ คือ ควรขยันบันทึก นำมาอ่าน ทบทวน ที่เขาบอกกันว่า ใครมีข้อมูลคนนั้นครองโลก นี่เลย…ย่อส่วนมาอยู่ในมือเราแล้วนะ

การวางแผนการลงทุน เรื่องนี้ก็ไม่ยาก (อีกเช่นกัน) ก่อนหน้านี้เรา คุ้นกับการฝากเงินแบงค์ ใช่ไหม…แต่ยุคนี้ ดอกเบี้ยน้อย เงินงอกเงยขึ้นมาไม่ทันกับการต้องกินต้องใช้ ก๋วยเตี๋ยวชามละ 10 บาท หาไม่มีแล้ว ใช่ไหม… กลายเป็น 30-40-50 บาท นั่นแหละเขาเรียกว่า “เงินเฟ้อ” หมายถึงเงินในกระเป๋าเรามีค่าน้อยลง ต้องใช้เงินมากขึ้นในการซื้อก๋วยเตี๋ยวให้ได้ชามเดียวกัน

เราจึงต้องวางแผนการลงทุน ให้เงินงอกเงยขึ้นมาให้ทัน แหล่งทุนที่ไหนล่ะ เขาก็แนะนำ ให้ลงทุนซื้อหุ้นในกิจการที่น่าจะเติบโตไปกับเศรษฐกิจ หรือมีลู่ทางทำกำไร มีเงินปันผล มีส่วนต่างของราคาหุ้น นักวิเคราะห์ จากหลายค่าย ที่มาในวันนั้น แนะนำไว้ หลายตัว อาทิ BCH, Global, EA, CPN, PTT,OSP,BEM,CPALL,BJC,PRM,SABINA,RS,JMT,SISB,JWD,MACO,SAWAD,PTT ( ชื่อเต็มของตัวย่อ และหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.set.or.th)

คนที่คุ้นเคยกับ ตลาดหุ้น การลงทุนอยู่แล้ว ก็อาจจะสนุกไปกับการพูดคุยกัน แต่สำหรับคนที่ เพิ่งเคยได้ยิน ก็ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะเราเรียนรู้กันได้ทุกวัน เมื่อโลกเปลี่ยน เราก็ต้องปรับ ด้วยเช่นกัน…..

คำถามง่ายๆ ที่โดนใจ คุณต้องการอะไรบ้างล่ะ ในชีวิตนี้….สุขกาย…สุขใจ…สุขเงิน….