คอลัมน์  “รู้จริง ถิ่นเฮา”
โดย “น้องดอกคูน”
….เรื่องเล่า อ่านสนุก ซอกมุมของบรรพบุรุษ และมองออกไปเบื้องหน้า ในบริบทของ เศรษฐกิจ สังคม การเมือง เมื่อทุกเรื่องม้วนร้อย เป็นมิติเดียวกัน  เหลืองสะพรั่งของดอกคูณ และ เสียงแคน แล่นแต้ มาแล้ว………….

^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^

    คนไทยเอื้ออารี มีน้ำใจ ใครมาถึงเรือนชาน เลี้ยงข้าว เลี้ยงน้ำ พาเที่ยว ด้วยความเต็มใจ ไม่มีเรื่องเงินเป็นตัวตั้ง เรื่องนี้เขารู้กันไปทั่วโลก

 

    เมื่อมีเพื่อนต่างถิ่น มาเยี่ยมยาม จะมาทำงาน ทำธุรกิจ หรือตั้งใจมาเที่ยวนครขอนแก่น เคยคิดไหม เมื่อถูกถามว่า จะพาพวกเขาไปเที่ยวไหนดี ? 

 

    นครขอนแก่น มีหลายจุดเป็นแหล่งท่องเที่ยวป๊อปูล่า ยอดนิยมอยู่แล้ว  คราวนี้ขอแนะนำเส้นทางที่สอดรับกับ การเป็น “เมืองหัตถกรรมโลก แห่งผ้ามัดหมี่”

 

    เส้นทางนี้ เป็นเส้นทางตามรอยคณะกรรมการตัดสิน ที่เข้ามาประเมินว่า จังหวัดขอนแก่น ได้รับขนานนาม ด้วยการผ่านการตอบคำถามหลักๆ แบบฉลุย คือ มีการทอผ้า ตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ สืบทอดมาถึงคนรุ่นปัจจุบัน และสืบสานไปถึงอนาคต

 

    การค้นพบ คำตอบ เกิดขึ้น เมื่อพวกเขาลงพื้นที่  อำเภอพล พบ “กี่ทอผ้า” อายุ 130 ปี มีคนรุ่นลูกยังนั่งทอผ้า อยู่ในกี่หลังนี้-ยังใช้งานได้สบายๆ และพบว่ามีเด็กหญิงวัย 7 ขวบ ใจรักที่จะทอผ้า เธอมีใจฝันที่อยากเป็นนักทอผ้า เหมือนคุณยาย คุณย่าของชุมชนนี้

 

    คำตอบ ของคำถาม ข้างต้น จึงสอบผ่าน เมื่อต้นเดือนธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา และในเวลาเกือบ พร้อมๆ กับ การที่นครขอนแก่น มีลายผ้าประจำจังหวัดคือ ลาย “แคนแก่นคูน”

 

    เส้นทางท่องเที่ยว เส้นใหม่ที่อยากแนะนำ คือ “ตามรอยแคนแก่นคูน” เพราะ กี่ทอผ้าอายุ 130 ปี หลังนี้ เป็นกี่หลังแรกที่ใช้ขึ้นลายทอผ้า “แคนแก่นคูน” ให้บันทึกไว้เป็นหน้าประวัติศาสตร์สำคัญ ของนครขอนแก่น

 

    แขกคณะแรกที่ไปร่วมขบวนการท่องเที่ยว “ตามรอยแคนแก่นคูน”  เป็นสมาชิกของสมาพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปภัมถ์ ที่เดินทางมาจากหลายจังหวัดทั่วประเทศ 

 

    5 สถานี ที่ไปแวะเยี่ยมชม ล้วนดื่มด่ำกับจิตวิญญาณของ “ผ้าไหม” อาทิ ศาลาไหมเฉลิมพระเกียรติ ตั้งอยู่ในเขตอำเภอชนบท  กลุ่มแม่บ้าน “แม่บุญสิน”  “แม่สุภาณี” ชมกี่ทอผ้าอายุกว่า 130 ปี และจบลงที่ บ้านต้นน้ำ-มีกระบวนการ เลี้ยงไหม ทอผ้า ให้ชม (สองจุด ตั้งอยู่ในเขตอำเภอพล)

 

    115 คน-นักท่องเที่ยวในวันนั้น  มีความสุขกับสัมผัส วิถี จิตวิญญาณ ยอดช้อปปิ้งทะลุมากกว่าครึ่งล้านบาท………….

 

    พาเพื่อนเที่ยว  บ้านเฮา…ม่วน คัก ขนาด เด้อ……

 

แพรพรรณไหม อาภรณ์ ล้ำค่า

 

การทำไหม “แต้มหมี่” พัฒนามาจาก “มัดหมี่”

 

เปิดมุมขาย ผ้า ในบ้านตัวเอง ไม่ต้องเดินทางไปไหนไกล

 

ศาลาไหมเฉลิมพระเกียรติ  พิพิธภัณฑ์เก็บผ้าไหมอันทรงคุณค่า มากกว่า 400 ชิ้น

 

เสียงแคน กับจังหวะสนุกสนาน

 

ทานข้าว ในสวนหม่อน

 

ผู้หญิง กับ ผ้าไหม เห็นเป็นต้อง จับจอง ครอบครอง เป็นเจ้าของ

 

เสน่ห์ของชุมชน คือ ความเรียบง่าย