ขอนแก่น เจ้าของร้านมือถือแจ้งความล่าตัวช่างซ่อมโทรศัพท์จอมต้มตุ๋นเสียหายร่วมล้าน (มีคลิป)   


15 มีนาคม 63 11:39:33


 

เจ้าของร้านจำหน่ายและรับซ่อมโทรศัพท์มือถือบนห้างดังเมืองขอนแก่น แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยติดตามตัวช่างซ่อมจอมต้มตุ๋นของร้าน ทำงานได้ 3 เดือน ขโมยเอาโทรศัพท์ที่ร้านและของลูกค้าที่นำมาซ่อมรวมกว่า 20 เครื่อง พร้อมหลอกพนักงานด้วยกันใช้ชื่อเช่าซื้อรถ 3 คัน ยืมเงินอีก 5,000 บาท หลบหนีลอยนวล พบประวัติโชกโชนทางภาคใต้ร่วมก่อเหตุกับภรรยาและลูก

    มีกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Jane Thamrongwarachai” โพสต์ภาพโจรพ่อแม่ลูกขโมยโทรศัพท์มือถือของร้านจำหน่ายโทรศัพท์บนห้างสรรพสินค้าในเมืองขอนแก่นไปหลายเครื่อง พร้อมระบุข้อความว่า “พบเห็นบุคคลในภาพหรือวีดีโอ ช่วยแจ้งเบาะแสกับตำรวจด่วนบุคคลอันตราย ชายคนนี้ช่อโกง ลักทรัพย์ หนีคดี ผู้เสียหายรวม 7 ราย แจ้งความคดีไว้ที่ สภ.เมืองขอนแก่นเป็นที่เรียบร้อยแล้วมีลูก 3 คน เป็นชาย 1 หญิง 2 คนผู้หญิงคนโตอายุ 12 ขวบ คนเล็ก 11 เดือนลูกชายอายุ 8-9 ขวบ ภารยา 1 คน และแม่ยาย ตอนนี้ก่อคดีไว้ที่จังหวัดขอนแก่น หลังจากที่หนีคดีมาจากพัทยา เป็นครอบครัวคนใต้ แจ้งเบาะแส Tel=0844796979 ชวนแชร์ ช่วยโพสต์ บอกต่อ เผื่อช่วยเหลือเพื่อนๆคนอื่นอาจตกเป็นเหยื่อ ขอบคุณค่ะ”  ซึ่งภายหลังผู้โพสต์โพสต์ลงในโซเชียลช่องทางต่างๆก็มีผู้เสียหายที่เคยถูกครอบครัวนี้ก่อเหตุลักทรัพย์ไปมาแจ้งเบาะแสเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่จังหวัดนราธิวาสโกงเงินไปกว่า 8 ล้านบาท


    ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปหา นางจินตนา ธำรงวราชัย อายุ 42 ปี เจ้าของร้านจำหน่ายและรับซ่อมโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นผู้โพสตืกรณีดังกล่าว โดยร้านตั้งอยู่บนห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งใจกลางเมืองขอนแก่น ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา ทางร้านได้เปิดรับสมัครช่างซ่อมโทรศัพท์ โดยมีราชิต อุนทริจันทร์ อายุ 40 ปี ชาว ต.ยี่งอ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส มาขอสมัครงานและโชว์ทักษะการซ่อมโทรศัพท์ซึ่งก็สามารถซ่อมได้เป็นอย่างดี จึงได้รับเข้าทำงาน ซึ่งตลอดในช่วงที่นายราชิตทำงานนั้น มีความผิดปกติหลายอย่าง เริ่มต้นจากกล้องวงจรปิดของร้านที่จะเปิดเอาไว้ 24 ชม. พบว่าบางวันกล้องหันหน้าไปทางอื่น บางวันปลั๊กถูกถอด บางวันราวเตอร์อินเทอร์เน็ตถูกปิดสวิชต์ ซึ่งสอบถามก็เข้าใจว่าเน็ตอาจจะหลุด หรือพนักงานเตะปลั๊กแล้วลืมเสียบ และต่อมาก็พบว่าลูกค้าที่นำโทรศัพท์มาสอบถามถึงร้านว่าซ่อมเสร็จหรือยัง ตนเองก็สอบถามทราบว่านายราชิตทำตัวเป็นเจ้าของร้านหลอกลูกค้าว่าจะนำไปส่งศูนย์ซ่อม เมื่อสอบถามไปที่ศูนย์ก็ไม่พบว่ามีการนำโทรศัพท์ของลูกค้าไปซ่อม จึงสอบถามไปยังนายราชิตก็โกหกว่าเอาออกมาแล้วอยู่กับตัวเองกำลังนำกลับไปที่ร้าน ก็จะพูดบ่ายเบี่ยงไปเรื่อยว่าต้องซ่อมตรงนั้นตรงนี้บ้างโดยได้นำกลับไปซ่อมต่อที่บ้าน และล่าสุดเมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา นายราชิตได้หนีไปพร้อมกับโทรศัพท์สมาร์ทโพนรุ่นใหม่ๆของร้านที่มีราคาสูง พร้อมทั้งโทรศัพท์มือถือของลูกค้าที่นำมาซ่อมที่ร้านรวมกว่า 20 เครื่อง และมาจับได้ว่านำโทรศัพท์ลูกค้าไปขายให้กับร้านที่ตัวเองรู้จัก โดยนายราชิตลงมือก่อเหตุเป็นทีมร่วมกับภรรยาและลูก โดยทั้งพ่อ แม่ ลูกได้เอาโทรศัพท์ไปตระเวนขายตามร้านต่างๆ นอกจากนี้ยังหลอกพนักงานที่ร้าน 3 คนขอใช้ชื่อเพื่อซื้อรถจักรยานยนต์จำนวน 3 คัน ยืมเงินพนักงานที่ร้านอีก 5,000 บาท แล้วหลบหนีไปและไม่สามารถติดต่อได้อีก จึงได้รวบรวมหลักฐานเดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อให้ทางตำรวจช่วยติดตามตัวมาดำเนินคดี

    นางจินตนา ยังกล่าวอีกว่า หลังจากแจ้งความเสร็จก็ได้โพสต์เรื่องราวแจ้งเตือนร้านอื่นๆ และตามหาเบาะแสของคนร้าย โดยมีผู้เสียหายจากจังหวัดอื่นซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าราชการครูอยู่ใน จ.นราธิวาส โดยภรรยาของนายราชิต เป็นข้าราชการครูระดับ 8 ฉ้อโกงเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจ.นราธิวาสไปรวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้เพื่อนครูด้วยกันต้องตามชดใช้หนี้แทน มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความกว่า 50 รายที่ สภ.เมืองนราธิวาส ส่วนภรรยานายราชิตได้หลบหนีและมาก่อเหตุต่อที่ จ.ขอนแก่นในครั้งนี้ ซึ่งอยากจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรีบติดตามดำเนินการจับกุมคนร้ายกลุ่มนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดนเร็ว ก่อนที่จะไปก่อเหตุในพื้นที่อื่นๆอีก โดยความคืบหน้าทางคดีขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกตนเองไปสอบปากคำเพิ่มเติมในวันอังคารที่จะถึงนี้ที่ สภ.เมืองขอนแก่น 







เว็บโฮสติ้ง

เว็บโฮสติ้ง   Cloud Web Hosting   Streaming Server   VPS