ขอนแก่น น้ำบึงหนองโคตรส่งกลิ่นเหม็นเน่าคลุ้งไปกว่า 200 เมตร เทศบาลเร่งแก้ไข (มีคลิป)
ปัญหาซ้ำซาก ชาวขอนแก่นที่อาศัยอยู่ใกล้กับบึงหนองโคตร และผู้ที่เดินทางมาออกกำลังกายในสวนสาธารณะต่างต้องทนกับกลิ่นเหม็นเน่าจากน้ำในบึงหนองโคตรที่ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปไกลรัศมีกว่า 200 เมตร ขณะที่เทศบาลตำบลบ้านเป็ดทราบเรื่อง รีบเข้ามาเร่งแก้ไขทันที
มีกรณีที่ชาวขอนแก่นจำนวนมากต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงปัญหาน้ำเหม็นเน่าในบึงหนองโคตร ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตามสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆโดยเฉพาะในเพจเฟซบุ๊กชื่อ “ขอนแก่น ร้องเรียนอะไรบอกไว้ที่นี่” ซึ่งมีชาวเน็ตคนขอนแก่นจำนวนมากต่างโพสต์ภาพน้ำในบึงหนองโคตรที่เป็นสีเขียวเข้ม มีฟองเกาะกันเป็นแพลอยอยู่เหนือน้ำ โดยระบุข้อความว่า “นี่คือความเสียหายและความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องสูดดมกลิ่นเหม็นทั้งวันทั้งคืน ระบบนิเวศพังเสียหาย ที่เกิดจากการแก้ปัญหาน้ำท้วมแบบมักง่าย การยิงท้อระบายน้ำลงหนองน้ำธรรมชาติแบบตรงๆไม่มีแบ่งน้ำดีน้ำเสีย มีท้อน้ำเสียขนาดใหญ่ระบายลงหนองโคตรไม่ต่ำกว่า5ท่อ ตามที่ผมนับได้ ไม่มีระบบบายพลาสให้น้ำเสียไหลไปที่อื่น จะช่วงน้ำน้อยน้ำมากน้ำก็ไหลลงนี่หมด การออกแบบแก้ไขน้ำท้วมแบบฉุ้ยๆมักง้าย ประชาชนและหมู่บ้านที่อยู่รอบข้างใด้รับความเดือดร้อน กลิ่นเหม็นของน้ำ จะมีวิธีแก้ปัญหายังไงให้ยั้งยืน ระบบนิเวศเดิมกลับคืนมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยลงมาแก้ปัญหาด้วยครับแบบยั้งยืนนะครับ ไม่ใช้แก้ปัญหาที่ปลายเหตุแค่เอารถมาดูดออกไปทิ้งเฉยๆครับ ต้องแก้ที่ต้นเหตุครับ” และ “ขออนุญาตร้องเรียนค่ะ ทุกคนรู้จักบึงหนองโคตรใช่มั้ยคะ ใครผ่านไปผ่านมาจะรู้ดีเลยว่ามีมลภาวะทางกลิ่น คือกลิ่นเหม็นมากกกกก แค่ขับมอเตอร์ไซค์ผ่าน หรือไปออกกำลังกาย จะรู้ดีเลยว่ากลิ่นแรงแค่ไหน นี่แค่ไปออกกำลังกายนะคะ แต่บ้านเราอยู่ติดบึง คือแบบออกมาตากผ้านอกบ้านยังได้กลิ่น ได้กลิ่นทุกวัน ได้กลิ่นจนปวดหัว ไม่อยากแทบจะเดินออกจากบ้านเลยทีเดียว คิดดูนะคะว่ากลิ่นแรงแค่ไหน ไม่พอนะคะ ตลาดคำไฮค่ะ รู้จักกันใช่มั้ยคะ เราไปซื้อกับข้าวตอนเย็นยังได้กลิ่นอ่ะ โธ่!!! ทัศนียภาพสวยงามแต่มีมลภาวะทางกลิ่นที่แรงมากกกกกก วอนผู้เกี่ยวข้องช่วยเร่งดำเนินการด้วยนะคะ หาวิธีแก้เถอะค่ะ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคน ขอบคุณค่ะ ”
ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบตามที่มีการโพสต์ในสื่อโซเชียลมีเดีย ที่บริเวณบึงหนองโคตร ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น บริเวณฝั่งที่ติดกับสวนสาธารณะที่มีชาวขอนแก่นทุกเพศทุกวัยต่างพากันมาออกกำลังกายกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวขับรถมาจอดจุดดังกล่าวและเปิดประตูรถก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าจากน้ำในบึงหนองโคตรโชยผ่านมาทันที โดยมีเด็กๆที่มาออกกำลังเล่นกีฬาฟุตบอลที่สนามฟุตบอลในสวนสาธารณะพาผู้สื่อข่าวเดินสำรวจจุดที่มีน้ำเน่าเสียอยู่ริมบึง ซึ่งก็พบว่ามีซากปลานิลตายอยู่ในบึงโดยมีแมลงวันกำลังตอมอยู่จำนวนมากและปลาซัคเกอร์ที่ขึ้นชื่อว่าตายยากที่สุดก็ยังนอนหงานท้องตายในบึง ซึ่งเด็กๆต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเหม็นมากและเหม็นมานานกว่า 2 สัปดาห์แล้ว อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไขโดยด่วน และในวันนี้ก็เห็นมีทางเจ้าหน้าที่นำรถน้ำมาสูบออกไปจำนวนหนึ่ง ทำให้ขณะนี้ความเหม็นลดลงบ้าง แต่ก็ยังเหม็นมากจนรุ่นพี่หลายคนทั้งปวดหัวทั้งอ้วกก็มี และส่งกลิ่นเหม็นไปไกลกว่า 200 เมตร
ขณะที่นาย ณรงค์ฤทธิ์ พันบุพผา อายุ 32 ปี ซึ่งเช่าหอพักอาศัยอยู่ที่บ้านกอก ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ห่างจากบึงหนองโคตรไปประมาณ 3 กม. และมาออกกำลังกายที่สวนสาธารณบึงหนองโคตรเป็นประจำ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเองมาเช่าหออาศัยอยู่ในพื้นที่ได้ประมาณ 1 ปี ซึ่งพบปัญหาแรกที่เจอเลยคือเรื่องกลิ่น ซึ่งสร้างความบั่นทอนจิตใจในการมาออกกำลังกายเป็นอย่างมาก จากที่จะได้มาออกกำลังกายสูดอากาศที่บริสุทธิ์ กลับต้องมารับเอากลิ่นเน่าเหม็นจนไม่มีจิตใจที่จะวิ่ง รู้สึกเหนื่อยตั้งแต่ยังไม่ทันได้วิ่ง บางวันเหม็นจนปวดหัวอีกทั้งยังเกิดอาการคลื่นไส้ และต้องออกไปหาที่วิ่งใหม่ที่ไกลออกไปอีก ซึ่งบรรยากาศที่ดีกว่า วันนี้จึงลองมาวิ่งดูอีกครั้งเผื่อว่ากลิ่นจะหายไป แต่ก็ยังพบว่าเหม็นมากเช่นเดิม จึงได้แจ้งไปยังช่องทางสื่อมวลชนต่างๆให้ช่วยมาทำข่าวเป็นกระบอกเสียงให้ พร้อมกันนี้ในวันนี้ชาวบ้านบอกว่ามีเทศบาลตำบลบ้านเป็ดนำรถน้ำมาดูดสิ่งปฏิกูลออกไป ซึ่งที่จริงวันเดียวก็น่าจะทำเสร็จ แต่ทำมาประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว ซึ่งตนเองอยากให้มาแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุมากกว่าว่ามันเกิดจากสาเหตุใด ไม่ใช่มาแก้ที่ปลายเหตุ การบำบัดน้ำ ระบบจัดการน้ำให้มีออกซิเจนในน้ำ การสร้างกังหันขนาดใหญ่ก็น่าจะช่วยได้และยังสร้างทัศนียภาพที่สวยงามดึงดูดให้มาเที่ยวเป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งของจังหวัดขอนแกนที่ควรปรับปรุงให้ดูดีต่อไปด้วย
ขณะที่เพจเฟซบุ๊กของเทศบาลตำบลบ้านเป็ด ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา โดยระบุว่า “เทศบาลตำบลบ้านเป็ดแก้ไขปัญหาน้ำในบึงหนองโคตรเน่าเสีย นายปรีดา นิลสาคู ปลัดเทศบาลตำบลบ้านเป็ด ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลบ้านเป็ด ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยการดำเนินการพร้อมทั้งหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาน้ำในบึงหนองโคตรมีกลิ่นเหม็น โดยได้สั่งการให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาในเบื้องต้นก่อนและเร็วที่สุดจากการตรวจสอบและได้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญพบว่าน่าจะเกิดจากปรากฏการณ์ยูโทรฟิเคชั่น ซึ่งเกิดจากปริมาณน้ำในดินลดลง ส่งผลให้มีความเข้มข้นของธาตุอาหารในบึงมากขึ้น ไนโตรเจนและฟอสฟอรัส ทำให้พืชน้ำปกคลุมไปทั่วผิวน้ำ พืชใต้น้ำเติบโตไม่ได้ ตายลงสะสมเน่าเหม็นตามที่ประชาชนทั่วไปได้แจ้งมาเบื้องต้น
1.กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม นำโดย ผอ.มนตรี สุพรหมอินทร์ ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม กำกับการดูดตะกอนเขียวที่หนาแน่นสะสมออก โดยนำรถดูดโคลน มากกว่า 7 เที่ยว รถสูบส้วม 3 คัน รวม 23 เที่ยว
2.งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักปลัดเทศบาล ดำเนินการฉีดพ่น EM ประมาณ 300 ลิตร ในวันนี้และวันพรุ่งนี้จะดำเนินการต่อ
3.กองช่าง นำโดย ผอ.จักรริน อัครเศรษฐัง ผู้อำนวยการกองช่าง ดำเนินการปิดประตูน้ำบริเวณบ้านกอก อุดรูรั่วที่น้ำเสียจะลงมาเติมในบึง และได้ทำหนังสือประชาสัมพันธ์แจ้งกำชับ ผญบ. หมู่ที่ 7 เพื่อช่วยกันดูแลรักษาความสะอาด โดยงดเว้นการระบายน้ำเสียหรือสิ่งสกปรกลงสู่บึงหนองโคตร ห้ามทิ้งน้ำเสีย ของเสีย หรือสารอาหารลงสู่บึงหนองโคตร เพราะเป็นการให้อาหารแก่สาหร่ายให้เพิ่มจำนวนมากยิ่งขึ้นและต้องได้รับอนุญาตจากเทศบาลในการเปิดประตูน้ำ เพื่อให้การจัดการเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่าปัญหาดังกล่าวนี้เกิดขึ้นมาโดยตลอด ซึ่งที่พบว่าน้ำเป็นสีเขียวนั้นคือแพลงก์ตอนชนิดหนึ่ง หรือสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน ซึ่งจะเจริญเติบโตในน้ำนิ่ง และบึงหนองโคตรไม่มีทางระบายน้ำ ทำให้เกิดการหมักหมมของสาหร่าย ทำให้มีกลิ่นเหม็นและจะขยายตัวออกเป็นวงกว้าง ถ้าหากมีฝนตก สีของสาหร่ายจะไม่เข้ม ซึ่งการเจริญเติบโตของสาหร่ายชนิดนี้ จะกลายเป็นสีน้ำตาลหรือสีแดงเข้ม แสดงว่าสาหร่ายดังกล่าวได้ตายและเน่าในน้ำ แต่ถ้ามองเห็นเป็นสีเขียวแสดงว่ากำลังเจริญเติบโต ทำให้รู้ว่าอีกไม่นานมันจะต้องตาย