ฮือฮา!หนุ่มใหญ่ขอนแก่น ประกาศมอบเงิน2ล้านให้ผู้แนะนำซื้อบ้านหรู!   


24 มิถุนายน 59 14:30:53

 

ฮือฮา!หนุ่มใหญ่ขอนแก่น ประกาศมอบเงิน2ล้านให้ผู้แนะนำซื้อบ้านหรู 
พร้อมเผยเส้นทางความสำเร็จ จากชีวิตติดลบสู่มหาเศรษฐี

    เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 59 สังคมออนไลน์จังหวัดขอนแก่น ต่างพากันแชร์กระทู้ขายบ้านใน "Market Place Khon Kaen" หัวข้อ "ขายบ้านหรูสไตร์รีสอร์ทพื้นไม้มะค่าหายากขนาด24นิ้วฝาประดู่เนื่อที10ไร่" โดยมียอดไลค์ยอดแชร์นับแสนคน ซึ่งเจ้าของตั้งราคาขายไว้ที่ 65 ล้านบาท ในกระทู้ได้โพสต์รูปแบบบ้านเป็นบ้านหรูสไตร์รีสอร์ท ตัวบ้านตกแต่งอย่างหรูหรา อลังการ พื้นบ้านใช้ไม้มะค่าที่หายาก ขนาด24นิ้ว ฝาบ้านด้านในเป็นไม้ประดู่ ฝาด้านนอกเป็นไม้สักทอง บนเนื้อที 10 ไร่ ครัวแยกเรือนรับรอง 2 หลัง พร้อมบ้านพักคนงาน  บ้านหลังดังกล่าวตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 99/99 ม.2 บ้านสอาด ถนนเหล่านาดี ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น  ใกล้ศูนย์ราชการ 300 เมตร (ศาลปกครอง)  รั้วติดด้าน หลังพฤกษารีสอร์ท 
 
     สำหรับบ้านหลังดังกล่าวเป็นของ นายธนกฤต  จิโรจธนสาร หรือ "น้อย" เขาเปิดเผยถึงสาเหตุที่ขายว่า ภรรยาของตนเสียชีวิตไปเมื่อ 3 ปีก่อน ปัจจุบันตนอาศัยอยู่กับหลานชาย การอยู่บ้านใหญ่มีค่าบำรุงรักษามาก ตนจึงคิดจะออกไปอยู่บ้านหลังที่เล็กลง ตนจึงประกาศพร้อมมอบเงินจำนวน 2 ล้านบาท แก่คนที่แนะนำให้มีการซื้อขายบ้านได้
 

  
     นายธนกฤต จิโรจธนสาร หรือ "น้อย"
 
       สำหรับ นายธนกฤต  จิโรจธนสาร เกิดเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2500 ปัจจุบันอายุย่าง 60 ปี เกิดที่อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก เป็นครอบครัวของชาวนาเล็กๆ พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เขามีอายุเพียง 6 เดือน เขาจึงได้ไปอยู่กับยาย พอโตขึ้นก็ไปอยู่กับลุงซึ่งเป็นผู้เลี้ยงเขามาจนโต จากสภาพปัญหาต่างๆได้หล่อหลอมให้เขามีความเป็นนักสู้ผู้พิชิตบุกเบิกธุรกิจจนประสบความสำเร็จในหลายธุรกิจในปัจจุบัน
  
       "ธนกฤต" เล่าว่า เขาเรียนจบระดับชั้น มศ.3 จากนั้นจึงดิ้นรนเข้าไปทำงานที่กรุงเทพ ทำงานหลายอย่าง สุดท้ายเขาได้เข้าทำงานที่ บริษัท โคเรียน อินเตอร์เนชั่นแนล โอโตโมบิลส์ จํากัด ทำหน้าที่เป็นพนักงานขายหนังสือ ประมาณ 2 ปี แบบไม่มีเงินเดือน แต่ก็ทำให้เขามีทักษะในการค้าขายที่ติดตัวเขามาจนถึงทุกวันนี้ หลังจากนั้นเขาได้ลาออกและดิ้นรนไปทำงานเป็นคนงานที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย 
   
       ในปี 2532 เขากลับเมืองไทย และได้ย้ายไปอยู่จังหวัดปราจีนบุรี  และประกอบอาชีพทำกล้วยตากขาย มีรายได้วันละ 300-400 บาท และได้พบรักและแต่งงานกับคุณนนทชา จิโรจธนสาร (เป้า) มีบุตร 1 คนคือ นายธนกร จิโรจธนสาร ซึ่งปัจจุบันนักกอล์ฟอาชีพที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศและจังหวัดขอนแก่น จากนั้นเขาได้ไปประกอบธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และไม้เนื้อแข็งในจังหวัดปราจีนบุรีนั่นเอง  ทำให้มีเงินเก็บพอสมควร ด้วยความแสวงหาโอกาสอยู่เสมอเขามองเห็นโอกาสจากการทำธุรกิจบ้านจัดสรร แต่ทุกอย่างก็ไม่เป็นดังฝัน ทำให้เขาล้มละลายในที่สุด
  
      จากการล้มละลายในการทำบ้านจัดสรรเขาจึงย้ายรกรากมาอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น โดยเช่าบ้านอยู่ที่เคหะขอนแก่น ทำอาชีพค้าขายหมูสะเต๊ะ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ แม้กระทั่งเงินที่จะให้ลูกไปโรงเรียนก็ไม่มี "ธนกฤต" บอกว่าลูกขอเงินไปโรงเรียนวันละ 5 บาท ก็ไม่มี จึงต้องให้ลูกลาออกจากโรงเรียนมา(ดรอป) 2 เดือน
 
        ณ บ้านเช่านั่นเอง ก็เป็นที่มาในการจุดประกายให้เขาประกอบธุรกิจอันเป็นที่มาของการประสบความสำเร็จในวันนี้ เขาเห็นคนข้างบ้านทำกรอบรูปวิทยาศาสตร์ เขาจึงทำทดลองทำกรอบรูปวิทยาศาสตร์แบบลองผิดลองถูก โดยไม่ได้ไปรับการสอนหรือฝึกอบรมที่ไหน เขามุ่งมั่นที่จะยึดเป็นอาชีพจึงได้ย้ายออกจากบ้านเช่าไปสร้างบ้านเล็กๆอยู่ที่ หมู่บ้านสะอาด ในปี พ.ศ. 2543 ซึ่งตอนนั้นแม้กระทั่งรถมอเตอร์ไซค์ก็ไม่มีต้องเช่ารถเพื่อรับส่งของ ทำกันสองคนกับภรรยา โดยนำกรอบรูปที่ทำมาใส่รถมอร์เตอร์ไซค์ตระเวนขายตามตลาด เมื่อทำต่อมาสักระยะขายดีขึ้นจนทำสองคนสามีภรรยาไม่ไหว จึงได้จ้างคนงานมาช่วยจาก 1 เป็น 2 คน เป็น 4 คน จนมีคนงานประมาณ 10 กว่าคน
 
        ในปี พ.ศ. 2545 เขาได้มีโอกาสเข้ารับการอบรมด้านการตลาด จากหลักสูตร "การเตรียมตัวเพื่อเข้าสู่ธุรกิจ SMEs" ภายใต้โครงการเสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่ จากการจัดของศูนย์บริการวิชาการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต "ธนกฤต" หลังจากอบรม ซึ่งหลังจากอบรมเขาได้กลับมาพัฒนาสินค้า พัฒนาแนวคิด เขาได้ก่อตั้ง "ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอสอาร์ แกลเลอรี่ 2004" ในปี พ.ศ. 2546  ซึ่งประกอบธุรกิจในการปริ้นไวนิล  ผลิตกรอบรูปแบบต่างๆ ขายหน้าร้านที่ขอนแก่น และขยายสาขาไปยังจังหวัดต่างๆอีกหลายจังหวัด และเป็นตัวแทนจำหน่าย ไตรวิชั่น ของบริษัทญี่ปุ่น 

         "ธนกฤต" เปิดเผยถึงจุดเปลี่ยนที่ทำให้กิจการเข้มแข็งขึ้นมา ว่าประกอบด้วยหลายส่วน ทั้งส่วนของการมีบุคลากรที่ดี แนวคิดในการทำสิ่งใหม่ๆไม่เหมือนที่อื่น มีการคิดค้นสิ่งใหม่เรื่อยๆ ทำให้ทันสถานการณ์ต่างๆ ทันต่อความต้องการของตลาด เช่น ในโอกาสวันเฉลิมพระพรรษา 5 ธันวาคม ของในหลวง ธนกฤต มองว่าคนต้องมีการติดตั้งป้ายเหล่านี้จำนวนมาก เขาก็เตรียมทำสินค้าไว้รองรับ และเขาก็เป็นผู้รับเหมาสร้างซุ้มประตู/ซุ้มเฉลิมพระเกียรติในที่ต่างๆ 

         จนใน ปี พ.ศ. 2548 ตั้งแต่เดือนธันวาคม มียอดขายเดือนละ 10 ล้าน และตั้งแต่นั้นก็มียอดขายไม่น้อยกว่าเดือนละ 10 ล้าน  เขาจึงต้องเพิ่มพนักงานกว่า 100 คน ในการบริหารงานของเขา เขาได้มีการพัฒนาองค์ความรู้ต่างๆให้พนักงาน โดยเชิญอาจารย์จากมหาวิทยาลัยขอนแก่นและผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาให้ความรู้พนักงาน ทั้งด้านการผลิต การบริการ การจัดส่ง การตลาด สร้างให้พนักงานมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของ ทำงานด้วยความจริงจัง จริงใจ 
 
        อย่างไรก็ดี "ธนกฤต" มองว่าการทำธุรกิจอย่างเดียว ไม่สามารถประสบความสำเร็จและมีรายได้สูงสุดได้ ชีวิตต้องมีการลงทุน เขามองว่า จังหวัดขอนแก่นมีโอกาสในการเติบโตและเป็นเมืองที่น่าลงทุน เพราะเป็นศูนย์กลางในด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ถือเป็นแหล่งรวมคนที่มีกำลังซื้อมาก เขาจึงนำเอาเงินที่เก็บหอมรอมริบได้ไปลงทุนด้านอสังหาริมทรัยพ์ ด้วยการสร้างบ้านจัดสรร การซื้อที่ดินหลายแปลงในจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดอื่นๆ และขายไป ในห้วงเวลาจากปีนั้นถึงวันนี้ จังหวัดขอนแก่นเติบโตแบบก้าวกระโดด ที่ดินที่เขาซื้อไว้มีราคามากขึ้นมหาศาล เมื่อเขาขายจึงทำให้เกิดรายได้อันเป็นที่มาของการเป็นเศรษฐีในวันนี้

         "ธนกฤต  จิโรจธนสาร" มีปรัชญาที่ยึดมั่นตลอดชีวิต คือ "เรียนรู้ และต่อสู้ ดูแล้วจำ ทำให้จริง" 

 





ชมภาพทั้งหมดจากกระทู้นี้ครับ http://forum.khonkaenlink.info/index.php?topic=17548404

 







เว็บโฮสติ้ง

เว็บโฮสติ้ง   Cloud Web Hosting   Streaming Server   VPS