ชี้แข่ง Moto GP กระตุ้นตลาดท่องเที่ยวอีสานคึกคัก ยกขอนแก่นเป็นฮับ กระจายนักเที่ยวสู่สนามแข่งขัน
เมื่อเร็วๆนี้ ที่สนามช้างอินเตอร์เนชันแนลเซอร์กิต อ.เมืองบุรีรัมย์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานขอนแก่น นำผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในจังหวัดขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม และร้อยเอ็ด สำรวจเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงรับการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบ Moto GP รายการแข่งขันระดับโลกที่กำลังจะมาใช้สนามช้างอินเตอร์เนชันแนลเซอร์กิต เป็น 1 ใน 19 สนามแข่งขันเริ่มฤดูกาลแข่งขันปีหน้า ระหว่างวันที่ 5-7 ตุลาคม 2561
น.ส.กนกวรรณ ดุงศรีแก้ว รองผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานขอนแก่น เปิดเผยว่า หลังจากที่สนามช้างอินเตอร์เนชันแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสนามจัดแข่งขัน Moto GP ฤดูกาลหน้า ระหว่างวันที่ 5-7 ตุลาคม 2561 นั้น จะมีแฟนกีฬาและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมการแข่งขันมากกว่า 200,000 คน ซึ่งจะกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวในจังหวัดบุรีรัมย์และทุกจังหวัดภาคอีสานคึกคักเป็นพิเศษ
ถือเป็นโอกาสสำคัญจะกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวไม่เฉพาะ จ.บุรีรัมย์ และ จ.ใกล้เคียงเท่านั้น แต่ครอบคลุมไปทุกจังหวัดภาคอีสาน ได้รับประโยชน์จากการจัดแข่งขัน Moto GPด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวจะเข้าชมช่วง 3 วันจัดการแข่งขัน ทั้งด้านของโรงแรมที่พัก สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร ของฝากที่ระลึก ได้รับประโยชน์ โดยททท.ขอนแก่น ได้นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวในจ.ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสาคาม และร้อยเอ็ด มาสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับสนามแข่ง
จ.ขอนแก่นพร้อมเป็นฮับ กระจายนักท่องเที่ยวทั่วโลกไปชมการแข่งขันโมโตจีพี โดยจัดชัตเติ้ลบัสรับนักท่องเที่ยวจากโรงแรมในจ.ขอนแก่น ไปยังสนามแข่งขันไปกลับได้ภายในวันเดียว หรือเลือกแพกเกจเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆตามเส้นทางก่อนถึงสนามแข่งขัน และพยายามกระจายรายได้ไปยังจังหวัดรอบข้างให้ได้รับประโยชน์จากการแข่งขันครั้งนี้
ด้านนายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ ผู้อำนวยการสนามช้างอินเตอร์เนชันแนลเซอร์กิต กล่าวว่าการแข่งขันโมโตจีพี จะเปลี่ยนมิติการท่องเที่ยวไทย ให้เป็นมหาอำนาจทางการกีฬาได้ชัดเจนขึ้นโดยใช้สปอร์ตทัวริส ขณะเดียวกันการแข่งขันโมโตจีพี แม้จะใช้สนามช้างอินเตอร์เนชันแนลเซอร์กิตเป็นสนามแข่งขัน แต่ประโยชน์จะเกิดกับจังหวัดอื่นทั้งประเทศ สร้างเม็ดเงินมหาศาลขึ้นในภาคเศรษฐกิจของประเทศไทย ถือว่าเป็นวาระแห่งชาติที่จะสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทย
ทั้งนี้จากการแข่งขันโมโตจีพี ที่ประเทศมาเลเซียเคยจัดแข่งขัน จากการศึกษาพบว่า โมโตจีพี เกิดเม็ดเงินสะพัดกว่า 1,057 ล้านบาท ทั้งเกิดมูลค่าเพิ่มมีเม็ดเงินหมุนเวียนกับระบบเศรษฐกิจภายในประเทศมาเลเซียอีกกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งเชื่อมั่นว่าการจัดแข่งขันโมโตจีพีที่ประเทศไทย น่าจะมีเม็ดเงินสะพัดและเกิดประโยชน์เศรษฐกิจภายในประเทศไทยสูงกว่ามาก จากความหลากหลายด้านการท่องเที่ยวของไทย
และจากการประเมินจะมีผู้มาชมการแข่งขันโมโตจีพี ที่จ.บุรีรัมย์มากกว่า 200,000 คนนั้น โดยศักยภาพของจ.บุรีรัมย์ เรื่องที่พักไม่สามารถรองรับได้แน่ นักท่องเที่ยวต้องล้นไปยังจังหวัดอื่น ซึ่งผู้ประกอบการท่องเที่ยว ควรใช้โอกาสการแข่งขันโมโตจีพีให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะการขยายตลาดท่องเที่ยว นำจุดเด่นด้านท่องเที่ยวของแต่ละจังหวัดมาทำแพกเกจท่องเที่ยวร่วมกัน
ขอขอบคุณภาพและข่าว
https://mgronline.com/local/detail/9600000097644