ไทยตั้ง 'ฌ็อง-มีแชล อีฟว์ ดีดีเย แปรัว' เป็นกงสุลฯฝรั่งเศส ประจำจังหวัดขอนแก่น   


30 มกราคม 61 15:31:09

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ลงนามประกาศแต่งตั้งให้ นายฌ็อง-มีแชล อีฟว์ ดีดีเย แปรัว (Mr. Jean-Michel, Yves, Didier Perroy) ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐฝรั่งเศส ณ จังหวัดขอนแก่น โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2560 ซึ่งสถานกงสุลฝรั่งเศส นับเป็นสถานกงสุลฯ แห่งที่ 5 ของจังหวัดขอนแก่นต่อจากสถานกงสุลใหญ่ ลาว เวียดนาม จีน และสถานกงสุลกิตติมศักดิ์เปรู นอกจากนี้ยังมีสถานกงสุลฯ ญี่ปุ่นและอเมริกาอยู่ระหว่างดำเนินการ

สำหรับนายฌ็อง-มีแชล อีฟว์ ดีดีเย แปรัว (Mr. Jean-Michel, Yves, Didier Perroy) อายุ 67 ปี เกิดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2493(ค.ศ.1950) จบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านกฎหมายมหาชนจากมหาวิทยาลัยรูออง ปัจจุบันเกษียณอายุราชการ โดยมีประสบการณ์การทำงานเป็นผู้อำนวยการด้านบริการที่เมืองมารอม และผู้อำนวยการด้านสหภาพเพื่อความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจแห่งเมืองรูออง

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการดูแลชาวฝรั่งเศสและนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสในจังหวัดขอนแก่นและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ได้รับการบริการด้านกงสุลที่สะดวกรวดเร็วขึ้น โดยจะตั้งอยู่ศูนย์ธุรกิจที่โรงแรมเจริญธานี เป็นที่ทำการสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐฝรั่งเศส ณ จังหวัดขอนแก่น เลขที่ 260 ถนนศรีจันทร์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น 40000

ปัจจุบันมีชาวฝรั่งเศสอาศัยอยู่ในจังหวัดขอนแก่นประมาณ 3,000 คน และคาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอีก นอกจากนั้นนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสยังสนใจเดินทางท่องเที่ยวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากขึ้นเป็นลำดับ


ความสำพันธ์ของไทยกับฝรั่งเศส
ไทยถือว่าเป็นหนึ่งประเทศในเอเชียที่มีความสัมพันธ์กันอย่างยาวนานที่สุดกับประเทศฝรั่งเศส  ความร่วมมือระหว่างสองประเทศไม่เคยห่างเหินกันไม่ว่าไทยเปลี่ยนแปลงผู้นำไปอย่างไรทั้งในด้านการค้า วัฒนธรรม การศึกษาและวิทยาศาสตร์ รวมไปจนถึงการทหาร
  
ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2399 จนถึงตอนนี้ ไทยกับฝรั่งเศสสถาปนาความสัมพันธ์ด้านการทูตมาอย่างยาวนานกว่า 160 ปีแล้ว
 
หากย้อนกลับไปดูในทางประวัติศาสตร์ ตามที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ของสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย ระบุว่า ช่วงศตวรรษที่ 17 ประเทศฝรั่งเศสและประเทศสยามได้เริ่มความสัมพันธ์กันอย่างเป็นทางการครั้งแรก คณะทูตจากประเทศไทยได้เดินทางไปเยือนประเทศฝรั่งเศสในปี 2227 และ 2229 โดยได้รับการต้อนรับจากพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 คณะตัวแทนจากฝรั่งเศสหลายคณะได้เดินทางมายังประเทศไทยเพื่อเข้าเฝ้าสมเด็จพระนารายณ์เช่นกัน คณะตัวแทนจากฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงที่สุดคือคณะของ เชอร์วัลลิเยร์ เดอ โชมงต์

ในส่วนของการล่าอาณานิคมในภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ เมื่อปี 2436 วิกฤตการณ์ ร.ศ.112 หรือ กรณีพิพาทระหว่างประเทศสยามและประเทศฝรั่งเศสทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสยุโรป 2 ครั้งในปี 2440 และ 2450 สัมพันธภาพดังกล่าวดีขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งประเทศไทยร่วมมือทางการทหารกับฝรั่งเศส หลังสงครามสิ้นสุด ในปี 2461 ประเทศสยามได้ส่งทหารเข้าร่วมสวนสนามที่ ถนนช็องเอลิเซ่ ประเทศฝรั่งเศส อีกด้วย

ไทยและฝรั่งเศสมีอะไรหลายอย่างคล้ายกัน
แม้ว่าจะแตกต่างทางด้านภูมิศาสตร์ แต่ขนาดพื้นที่ของประเทศไทยและฝรั่งเศสมีความใกล้เคียงกัน ไทยมีพื้นที่ 513,115 ตร.กม ส่วนฝรั่งเศส 675,417 ตร.กม และมีจำนวนประชากรใกล้เคียงกันด้วย ในฝรั่งเศสมีประชากร 64.4 ล้านคน สวนประเทศไทยมี 67.6 ล้านคน

นอกจากนี้ สีบนธงชาติของทั้งไทยและฝรั่งเศสยังมี 3 สีและเรียกว่า "ธงไตรรงค์" (Tricolour) เหมือนกัน คือ สีแดง สีขาว และสีน้ำเงิน แต่ความหมายของสีแตกต่างกัน สำหรับธงชาติไทย สีแดง หมายถึง ชาติ สีขาว หมายถึง ศาสนา สีน้ำเงิน หมายถึง พระมหากษัตริย์ ส่วนสีบนธงชาติฝรั่งเศส (ตามข้อมูลเว็บไซต์ gouvernenment.fr) ระบุว่าสีขาวคือสีประจำสถาบันกษัตริย์ ส่วนสีน้ำเงินและสีแดงเป็นสีประจำกรุงปารีส

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 
ดูข้อมูลเพิ่มเติม
สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประเทศไทย







เว็บโฮสติ้ง

เว็บโฮสติ้ง   Cloud Web Hosting   Streaming Server   VPS