เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 1 ก.พ. ที่ สภ.เมืองขอนแก่น นายฉัตรชัย  อุ่นเจริญ นายอำเภอเมืองขอนแก่น พ.ต.อ.จรัสพัฒน์ สุตยสรณาคม รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พ.อ.พิทักษ์พล ชูศรี หน.กกล.รส.จว.ขอนแก่น พ.ต.อ.จำลอง สุวลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.ท.นรวัตน์  คำภิโล รอง ผกก.สส.สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นางนิภาพร หรือ อุ๊ บุญใหญ่ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่256 หมู่ 6 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น  ตามหมายจับที่ จ.545 / 2560 ลงวันที่ 29 ม.ค. 2560 ข้อหา ลักทรัพย์ในเคหะสถานโดยใช้ยานพาหรนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม

โดยมีของกลาง 1.รถ จยย.ฮอนด้า สกูปปี้ สีเขียว - ขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน 2.โทรศัพท์มือถือ 11 เครื่อง 3.โน๊ตบุ๊ค 2 เครื่อง 4. แทปเล๊ต 1 เครื่อง

 

พ.ต.ท.นรวัตน์  คำภิโล รอง ผกก.สส.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ได้รับแจ้งความจากประชาชนที่ทำอาชีพค้าขายและนักเรียน/นักศึกษา ในพื้นที่จำนวนหลายราย มาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีว่าถูกคนร้ายลักทรัพย์โดนใช้กลอุบาย ซึ่งผู้ก่อเหตุเป็นหญิงอายุประมาณ 30 - 35 ปี ผมยาวหยิก สูงประมาณ 150 - 155 ซม. ขับขี่รถ จยย.ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ก่อเหตุตามร้านค้าและหอพักต่างๆ โดยใช้กลอุบายหลอกซื้อสินค้า หรือหลอกว่าจะย้ายเข้ามาอยู่ในหอพัก เมื่อมีผู้เสียหายหลงเชื่อจะหลอกให้ขึ้นรถ จยย.ของคนร้ายขับออกมาจากจุดเกิดเหตุ จากนั้นคนร้ายจะหลอกให้ผู้เสียหายลงจากรถ จยย. เมื่อมีผู้เสียหายลงจากรถ จยย.แล้ว คนร้ายจะย้อนกลับมาที่ร้านของผู้เสียหายและก่อเหตุลักเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายไป

การสืบสวนขยายผลจากกล้องวงจรปิดของผู้เสียหายก็ทราบว่าคนร้ายรายนี้มีเพียงคนเดียว ชื่อว่า นางนิภาพร หรือ อุ๊ บุญใหญ่ มีหมายจับติดตัวอยู่อีกจำนวนหนึ่ง 1 หมายจับ คือ หมายจับของศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ จ.540/ 2560 ลงวันที่ 28 ธ.ค. 2560 ข้อหา ลักทรัพย์ในเคหะสถานโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมนางนิภาพรได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 128 หมู่ 6 บ้านปอแดง ต.ขามเฒ่าพัฒนา อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม พร้อมกับตรวจยึดของกลางดังกล่าวทั้งหมดได้ที่บ้านหลังดังกล่าว

นางนิภาพรยอมรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุในลักษณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาในพื้นที่ สภ.เมืองขอนแก่น 14 ครั้ง ,สภ.บ้านเป็ด 2 ครั้ง และ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ อีก 2 ครั้ง โดยมีแรงจูงใจในการก่อเหตุเพราะเป็นหนี้เงินกู้นอกระบบหลายหมื่นบาท และนำเงินที่ได้มาจากการก่อเหตุลักทรัพย์มาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอีกด้วย.