ขอนแก่น ตำรวจปูพรมล่า "ไอ้โม่ง" ยิงเจ๊ยุเขียงเนื้อ อย่างโหดเหี้ยม 2 นัด แถมใช้มีดแทงที่ศีรษะ   


16 ธันวาคม 61 12:30:47

ชุดสืบสวน ปูพรม ล่า ไอโม่ง ชิงทรัพย์เจ้ยุเขียงเนื้อ ตำรวจเผยกักตัวน้องชายไว้ต่อ ตามคำให้การของพยานยืนยัน ตาวุฒิยิงแม่

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ธันวาคม 2561 พ.ต.ต.เจษฎา แปงการิยา สว.สส.สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ นางยุพาพร บุราญรัตน์ อายุ 44 ปี เจ๊ยุ เจ้าของเขียงเนื้อที่บ้านเลขที่ 162 พื้นที่บ้านโนนข่า ต.หัวหนอง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ซึ่งคนร้ายใช้ปืนไม่ทราบขนาด ยิงเจ๊ยุ 2 นัด และใช้มีดแทงที่ศีรษะ บาดเจ็บสาหัส ก่อนชิงเอาทองรูปพรรณไปได้น้ำหนักรวม 25 บาท เงินสด 450,000บาท เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 15 ธันวาคม ที่ผ่านมาว่า ที่เกิดเหตุมีพยานเห็นเหตุการณ์เป็นหลานชายของคนเจ็บวัย 4 ขวบ จึงได้ประสาน สหวิชาชีพ ร่วมกันสอบสวนพยาน และนำภาพถ่ายมาให้ดู พยานชี้ภาพญาติสนิทวัย 46 ปี ว่าเป็นคนยิงเจ๊ยุ ส่วนคนร้ายอีกคนพยานว่า เอาผ้าพันหน้าไว้ ซึ่งหลังทราบรายละเอียดจึงได้ไปควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยที่พยานชี้ภาพยืนยันว่าเป็นคนยิง คือ นายวรวุฒิ บุราญรัตน์ อายุ 46 ปี  น้องชายแท้ของนายวรวิทย์ บุราญรัตน์ สามีของเจ๊ยุเขียงเนื้อ ไปสอบสวน  ซึ่งการสอบสวนนายวุฒิ ให้การปฏิเสธ ว่าไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆทั้งสิ้น ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ก็ยังควบคุมตัวไว้อยู่ที่ สภ.บ้านไผ่ เนื่องจากเป็นบุคคลที่พยานยืนยันว่า ยิงเจ๊ยุ

พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทั้งสืบสวนสภ.บ้านไผ่ สืบสวนภ.จว.ขอนแก่น สืบสวนภาค4 ได้ลงพื้นที่ เพื่อสืบสวนสอบสวนพยานแวดล้อม ว่ามีใครได้ยินเสียงปืนหรือพบบุคคลต้องสงสัยเข้าไปในบ้านก่อเกิดเหตุหรือไม่ พร้อมทั้งจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี เพราะขณะนี้คนร้ายที่ยังหาตัวไม่พบ คือชายที่พยานให้การว่า มีผ้าปิดบังใบหน้า ซึ่งเชื่อว่าคนร้ายรายนี้จะนำทรัพย์สินติดตัวไปทั้งหมด

พ.ต.ต.เจษฎา แปงการิยา  กล่าวอีกว่า ขณะที่การสอบสวนสามีคนเจ็บในเบื้องต้นยังวกวน เพราะหลังเกิดเหตุให้การว่า เพิ่งขายวัว 15 ตัวไปก่อนเกิดเหตุเพียงสองวันในราคา 450,000 บาท เมื่อเกิดเหตุชิงทรัพย์ปรากฏว่าเงินหายไปหมดและทองรูปพรรณที่ภรรยาสวมใส่ น้ำหนักรวม 40 บาทหายไปด้วย แต่เมื่อตรวจสอบและสอบสวนอย่างละเอียดแล้วพบว่า ทองรูปพรรณที่เจ๊ยุใส่มีเพียง 25 บาท คือสร้อยคอหนัก 10 บาท  กำไลข้อมือข้างซ้ายหนัก 10 บาท และกำไลข้างขวาหนัก 5 บาท รวมน้ำหนักทั้งสิ้น 25 บาท แหวน 2 วง น้ำหนักวงละ 1 บาท ซึ่งคนร้ายถอดเอาแหวนไปไม่ได้ และยังพบเงินสดจำนวน 560,000 บาท ในตะกร้าที่เจ้ยุใส่เงินขายของได้ วางอยู่ในห้องนอน ซึ่งสามีก็ยืนยันว่า เงินที่พบน่าจะเป็นเงินที่ขายของได้ ภรรยายังไม่เอาเข้าธนาคาร และยืนยันว่า คนร้ายได้เงินสดที่ขายวัวไปจริงๆ

ตำรวจยังปล่อยตัวสองคนพี่น้องไปไม่ได้ เพราะเป็นบุคคลต้องสงสัยมากที่สุดในขณะนี้ การลงมือของคนร้ายไม่มีรอยงัดแงะ ไม่มีรอยรื้อค้น มีรอยต่อสู้ จึงเชื่อว่าคนร้ายเป็นคนใกล้ชิดกับครอบครัวเจ๊ยุ  เพราะเป็นที่น่าสังเกตว่าคนร้ายทราบได้อย่างไรว่าเงินที่ขายวัวเก็บไว้จุดใด ทำไมจึงเจาะจงเอาเงินส่วนนั้นเพียงส่วนเดียว เงินอีกห้าแสนกว่าบาทในตะกร้ากลับไม่หยิบไปด้วย อีกทั้งนายวุฒิเป็นคนที่เคยอาศัยอยู่ในบ้านกับพี่ชาย และเจ๊ยุ ซึ่งเป็นพี่สะใภ้มานาน ระยะหลัง พี่สะใภ้ไม่ให้อยู่ด้วย จึงกลับไปอยู่ที่บ้าน ห่างออกไปประมาณ 3 กม. และเป็นบุคคลที่พยานยืนยันว่า ยิงเจ๊ยุ จึงต้องกักตัวไว้ก่อน จนกว่าการสืบสวน รวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนจะเรียบร้อยว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจึงจะปล่อยตัวไป แต่ขณะนี้เป็นบุคคลต้องสงสัยตามที่พยานยืนยันก็ต้องกักตัวไว้ เพื่อสอบสวนเพิ่มเติมต่อไป







เว็บโฮสติ้ง

เว็บโฮสติ้ง   Cloud Web Hosting   Streaming Server   VPS