ขอนแก่น ค้นพบเมนูอาหารสุดแปลก "ไก่ย่างมดแดง" เผยเคล็ดลับเด็ดหมักด้วยฉี่มดแดง (มีคลิป)   


17 มกราคม 62 23:06:40

ค้นพบเมนูอาหารสุดแปลก "ไก่ย่างมดแดง" เผยสูตรเด็ดเคล็ดลับหมักด้วยฉี่มดแดงก่อนนำไปย่าง รับประกันความอร่อย ทั้งหอม ทั้งนุ่ม ละมุลลิ้น จนเป็นของเด่นของดีชาวชุมชนวังสวรรค์ หนึ่งเดียวในไทย ที่อิ่ม อร่อยได้ทุกเวลา

17 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณศาลากลางบ้านบ้านวังหว้า ม.8 ต.บ้านแฮด อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น พ.ต.อ.อนุศักดิ์  ศักดาวัชรานนท์ ผกก.สภ.บ้านแฮด พร้อมด้วย นางอัมพร  สุดดี นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ อ.บ้านแฮด ลงพื้นที่เยี่ยมชมการดำเนินงานตามโครงการหมู่บ้านชุมชนท่องเที่ยวโอทอปนวัตวิถี ซึ่งกรมพัฒนาชุมชนกระทรวงมหาดไทย ได้กำหนดจัดกิจกรรมขึ้น ซึ่งที่บ้านวังหว้า อ.บ้านแฮด เป็น 1 ใน 114 หมู่บ้านต้นแบบ ที่ จ.ขอนแก่นได้คัดเลือกให้เป็นหมู่บ้านชุมชนท่องเที่ยวโอทอปนวัตวิถี โดยมีนายคำตัน  ชงคะรักษ์ผู้ใหญ่บ้านบ้านวังหว้า นำคณะกรรมการหมู่บ้านและชาวชุมชนร่วมให้การต้อนรับ พร้อมทั้งหาเยี่ยมชมเส้นทางการท่องเที่ยวที่ชุมชนได้กำหนดไว้ใน 2 เส้นทาง โดยรอบหมู่บ้านที่ทุกคนนั้นจะต้องชิม ต้องชม ต้องแชะ ต้องแชร์ และต้องช๊อปอีกด้วย

ซึ่งนอกจากการนำผลิตภัณฑ์สินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีอยู่กว่า 10 รายการมาจัดแสดงและจำหน่ายให้กับผู้ที่มาเยือนแล้ว ยังมีอีกอย่างที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและผู้ที่มาเที่ยวชมหมู่บ้านชุมชนท่องเที่ยวโอทอปนวัตวิถีแห่งนี้อย่างมากคือเมนูไก่ย่างมดแดง และข้าวไร่ขาวซิแม่จันทร์ ที่สามารถผลิตได้เฉพาะที่ บ.วังหว้า ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น

นางอัมพร  สุดดี นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ อ.บ้านแฮดนางอัมพร  สุดดี นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ อ.บ้านแฮด

นางอัมพร  สุดดี นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ อ.บ้านแฮด กล่าวว่า บ้านวังหว้า เป็น 1 ใน 114 หมู่บ้านของ จ.ขอนแก่น ที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ซึ่งชุมชนแห่งนี้มีความพร้อม มีความเข้มแข็งและชาวบ้านเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่ดึงเอาจุดเด่นและของดีที่มีอยู่ในชุมชนนั้นมาถ่ายทอดเรื่องราว จนกลายมาเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่ทุกคนนั้นสามารถมาสัมผัสถึงวิถีชีวิตของคนในชุมชนได้อย่างมาก เพราะด้วยทำเลที่ตั้งที่แม้ว่าหมู่บ้านแห่งนี้จะอยู่บนเนินเขาและมีปัญหาเรื่องน้ำสำหรับภาคการเกษตรแต่คนในชุมชนก็ทำการพลิกวิกฤติเป็นโอกาส ด้วยการทำข้าวไร่ ที่ถือเป็นพื้นที่ชุมชนที่มีพื้นที่ปลูกข้าวไร่มากที่สุดในภาคอีสาน โดยเฉพาะข้าวไร่พันธุ์ซิวแม้จันทร์ และพันธุ์ขาวแม่ซิว ที่เป็นที่ต้องการของตลาดที่มียอดในการสั่งซื้อแต่ละปีอย่างมาก อีกทั้งในเดือน ก.ค.-ส.ค.ทุกปี ที่พื้นที่ชุมชนแห่งนี้ทุกตารางนิ้วจะเต็มไปด้วยทุ่งข้าวไร่ ที่ถือเป็นจุดบันทึกภาพที่สวยงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่ต้องการชมทุ่งข้าวไร่หลายพันไร่ที่เหลืออร่ามไปทั่วทั้งบริเวณ

ขณะเดียวกันการทำงานร่วมกันกับชุมชนกับสำนักงานพัฒนาชุมชน อ.บ้านแฮด คือการส่งเสริมการเลี่ยงไก่พื้นเมือง ซึ่งเมื่อชุมชนได้ร่วมกันทำแล้วยังคงได้ร่วมกันคิด ร่วมกันต่อยอดผลผลิตจนกลายมาเป็นเมนูขึ้นชื่อคือไก่ย่างมดแดง ซึ่งปัจจุบันหาทานได้ยากมากแต่ชุมชนแห่งนี้ยังคงไว้ซึ่งเสน่ห์ ซึ่งเอกลักษณ์ ซึ่งอัตลักษณ์และวิถีชีวิตดั้งเดิมผ่านรสชาติ ผ่านความพิถีพิถันที่เป็นเมนูยอดฮิตที่อยากให้ทุกคนนั้นได้มาชิมกันเลยทีเดียว โดยเมนูไก่ย่างมดแดงนั้นเริ่มจากการคัดไก่พื้นเมืองหรือไก่บ้าน ซึ่งต้องเป็นไก่บ้านเท่านั้น ตัวขนาดประมาณ 1.5 กก. มาทำการชำแหละ  ตัดหัว เครื่องในและหางออก จากนั้นทำการแผ่ร่างไก่ให้กลายเป็นผืนเดียวกัน เข้ากระบวนการการหมักด้วยสมุนไพรพื้นบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ข่า ตะไตร้ ใบมะกรูด กระเทียม กระชาย ผักชี และเครื่องปรุงรส โดยทำการหมักๆไว้ประมาณ 2 ชม.เพื่อให้เครื่องเทศและเครื่องปรุงนั้นเข้าเนื้อ จากนั้นจะถึงขั้นตอนสำคัญคือการหมักมดแดง ที่นำไก่ทั้งตัวที่ผ่านการหมักด้วยส่วนผสมนั้นนำไปหมัก หรือแช่ หรือที่ชาวบ้านเราเรียกว่านำไปซุกกับมดแดงทั้งรัง เพื่อให้มดแดงนั้นได้กัดเนื้อไก่ พร้อมทั้งฉี่ใส่จนเกิดความนุ่ม ละมุลลิ้นและที่สำคัญเป็นยาบำรุงกำลังตามความเชื่อของปราชญ์ชุมชนในพื้นที่อีกด้วย

นางอัมพร กล่าวต่ออีกว่า มดแดงคือยาบำรุงร่างกาย ยาบำรุงกำลังชั้นดีของคนเฒ่าคนแก่ ที่ผ่านมาสได้ถูกนำมาเป็นยา ถูกนำมาเป็นส่วนผสมของอาหารหลายอย่าง วันนี้ชุมชนได้นำเอามดแดงมาเป็นส่วนผสมของไก่ย่าง ซึ่งให้ดีต้องนำไก่ที่หมักไว้แล้วงนั้นนำมาซุกหรือนำมาหมักกับหมดแดงในช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. ของทุกวัน เพื่อให้มดแดงนั้นได้แทะ ได้กัด หรือฉี่ลงใส่ในตัวไก่ จนเกิดความนุ่ม ความหอม โดยในช่วงของการซุกมดแดงหรือหมัดมดแดงนั้นจะใช้เวลาประมาร 1 ชม. ไก่ตัวนั้นก็จะถูกนำมาย่างด้วยถ่านไม้ จนสุก ซึ่งไก่ย่างมดแดงก็จะมีความหอม ความหวาน และมีมดแดงตัวน้อยตัวนิดติดมากับไก่ย่างด้วย ซึ่งสร้างเสน่ห์ให้กับอาหารประจำถิ่นของชุมชนบ้านวังหว้า อย่างมาก อย่างไรก็ตามสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจจะเดินทางมาสัมผัสถึงวิถีของคนในชุมชนแห่งนี้ที่ปัจจุบันได้กำหนดเส้นทางการท่องเที่ยวออกเป็น 2 เส้นทางสำคัญ ทั้งการกราบขอพระหลวงปู่จันดี เกจิอาจารย์ที่เป็นที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาของคนขอนแก่น การร่วมกิจกรรมการสานเปล ดกดารทำข้าวต้มมัดจากข้าวไร่ การร่วมชมความไทย หรือการชมสวนป่าที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของรัฐบาลญี่ปุ่น ที่จัดทำขึ้นที่นี่เพียงที่เดียวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นักท่องเที่ยวทุกคนนั้นสามารถที่จะเดินทางมาเที่ยวชมความสวยงามทางธรรมชาติ ชมเสน่ห์ของชุมชน ชิมอาหารประจำถิ่นขึ้นชื่อ ที่สามารถมาเที่ยวชมได้แล้วในทุกวัน







เว็บโฮสติ้ง

เว็บโฮสติ้ง   Cloud Web Hosting   Streaming Server   VPS