ขอนแก่น เจ้าอาวาสผวาขอตำรวจคุ้มกันหลังทายาทเจ้าของที่ทวงที่ดินคืน (มีคลิป)   


2 กุมภาพันธ์ 62 17:19:44

เจ้าอาวาสวัดผวา โร่ขอกำลังตำรวจคุ้มกัน 24 ชม. พร้อมโชว์โฉนดที่ดินฉบับจริง 21ไร่ เก็บอย่างดี สร้างวัดตามเจตนารมณ์ผู้ให้ หลังมีทายาทเจ้าของที่ออกมาโวยต้องการที่ดินคืน

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 2 กุมภาพันธ์2562 ที่วัดป่าอดุลยาราม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น พระอธิการสุพัตร์ ฐิตวังโส  เจ้าอาวาสวัด พร้อมด้วย นายบุญยง แก้วฝ่ายนอก ทนายความ ร่วมกันชี้แจงรายละเอียด จากกรณีที่ ถูกชาวบ้านขับไล่ออกจากวัด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา เนื่องจากเกิดข้อพิพาทกับชาวบ้านกลุ่มดังกล่าว ซึ่งเป็นทายาทของนายเฮียง พิมพ์ศรี อดีตกำนันตำบลในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้ที่ยกที่ดินให้สร้างวัดเมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมา ได้มาทวงเอาที่ดินในส่วนที่เหลือคืนจากเจ้าอาวาสวัด ซึ่งขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ย่อย มข.และสภ.เมืองขอนแก่น เข้าระงับเหตุและให้ทุกฝ่ายเข้าสู่การเรียกร้องตามขั้นตอนของกฎหมาย ชาวบ้านจึงยอมออกจากวัดไป

ล่าสุดพระอธิการสุพัตร์ ฐิตวังโส เจ้าอาวาสวัด กล่าวว่า หลังเกิดเหตุในวันที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น โดยเฉพาะกรณีที่ถูกข่มขู่ จนเกิดความกลัว และขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มครองความปลอดภัยตลอด 24 ชม.อีกด้วย ทั้งยังชี้แจงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งหมดว่า  เนื่องจากเมื่อปี 2533 นายเฮียง พิมพ์ศรี ได้มอบโฉนดที่ดินเลขที่ 61945 เล่มที่ 620 หน้าที่ 45 เนื้อที่ 21ไร่ 3 งาม 6 ตารางวา ให้กับเจ้าอาวาสคนก่อนเพื่อให้สร้างวัด ซึ่งเมื่อสร้างวัดเรียบร้อยจะมีการโอนที่ดินให้เป็นของวัด  ซึ่งขณะนั้นตัวเองเป็นเพียงพระลูกวัด กระทั่งในปี 2534 นายเฮียงเสียชีวิต เจ้าอาวาสคนก่อนก็เสียชีวิต แต่ก่อนที่เจ้าอาวาสจะเสียชีวิตได้แต่งตั้งให้ตัวเองรักษาการเจ้าอาวาสวัดแทน จึงทราบรายละเอียดของการมอบที่ดินผืนดังกล่าว ซึ่งเมื่อเจ้าอาวาสคนก่อนสิ้นไปแล้ว ตัวเองก็ถูกตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดแทน จึงได้มีการสานต่อเจตนารมณ์ของเจ้าของที่ดิน ดำเนินการสร้างวัด โดยการขออนุญาตสร้างวัดตามขั้นตอนในทุกๆด้าน เช่นการสร้างกุฏิ ศาลาการเปรียญ หอระฆัง กระทั่งได้ตราตั้งมาถูกต้องทุกอย่าง

ผ่านมาหลายปีไม่มีปัญหา โฉนดที่ดินก็ไม่ได้เอาออกมาโชว์หรือแสดงให้ใครดูแม้กระทั่งทายาทของนายเฮียงก็ไม่ให้ดู เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายและสูญหาย เนื่องจากหลังโฉนดยังไม่มีการสลักหลังใดๆทั้งสิ้น จึงเก็บโฉนดไว้ในที่ปลอดภัยมาโดยตลอด เมื่อมีข้อพิพาทและทายาทของนายเฮียงต้องการครอบครองที่ดินในแปลงที่มีการสร้างวัดไปแล้ว จึงต้องออกมาชี้แจงพร้อมโฉนดที่ดินฉบับจริง และยืนยันว่า ไม่มีการซื้อขายในที่ดินแปลงดังกล่าวแต่อย่างใด ทุกตารางวายังอยู่ครบ

เจ้าอาวาสวัด กล่าวอีกว่า กรณีที่ทายาทนายเฮียงระบุว่า ที่ดินตามโฉนดจำนวน 21 ไร่ ยกให้เพียง 6 ไร่ ที่เหลือทายาทได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและตั้งผู้จัดการมรดกและมาเจรจาที่วัดหลายครั้งเพื่อขอแบ่งแยกที่ดินส่วนที่เหลือไปแบ่งกันนั้น ในเรื่องดังกล่าวขอชี้แจงเป็น 2 กรณี คือ กรณีที่ดินตามโฉนดที่ยกให้สร้างวัดมีจำนวน 21 ไร่ 3 งาน 6 ตารางวา และกรณีที่ดินอีกจำนวน 5 ไร่ที่อยู่ติดกันยังไม่มีโฉนด ซึ่งในที่ดิน 5 ไร่นั้น ทางวัดได้มีการรักษาป่าให้เป็นผืนป่าธรรมชาติ ป่ากลางเมืองที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดเอาไว้มาจนถึงปัจจุบัน แต่ในปี 2546 มีการสร้างถนนกัลปพฤกษ์ ทางราชการได้เวนคืนที่ดินไปบางส่วนเพื่อสร้างถนน โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการจ่ายค่าเวนคืนให้เป็นเงินสองล้านกว่าบาท แต่เงินจำนวนดังกล่าว ทางวัดไม่ได้เอามาครอบครองหรือใช้จ่ายแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นที่ดินที่ไม่มีโฉนด หน่วยงานที่เป็นเจ้าของเงิน มีข้อแม้ว่า เงินจำนวนดังกล่าวจะจ่ายเมื่อที่ดินแปลง5 ไร่มีโฉนดที่ถูกต้อง

นายบุญยง แก้วฝ่ายนอก ทนายความนายบุญยง แก้วฝ่ายนอก ทนายความ
 
ทางด้าน นายบุญยง แก้วฝ่ายนอก ทนายความ กล่าวว่า  ในกรณีข้อพิพาทในที่ดินของนายเฮียงกับทางวัดนั้น จริงมันจบลงแล้ว เพราะหลังจากนายเฮียงเสียชีวิต นางนางภรรยาผู้ตายได้ยื่นต่อศาลขอเป็นผู้จัดการมรดกในที่ดินแปลง 21 ไร่ที่มีโฉนดและที่ดินแปลง 5 ไร่ที่ยังไม่มีโฉนด แต่คดีความในกรณีพิพาทในที่ดิน 21 ไร่นั้น เริ่มมาตั้งแต่ปี 2548 เมื่อคดีเข้าสู่ศาลชั้นต้น ก็ยื่นอุทธรณ์ และฎีกา กระทั่งสิ้นสุดลงตามความเห็นของศาลทั้ง 3 ศาลเมื่อปี 2555 กระทั่งมีการเวนคืนที่ดินบางส่วนจากจำนวน 5 ไร่ที่ยังไม่มีโฉนด และจ่ายค่าชดเชยจำนวนสองล้านกว่าบาทเมื่อปี 2546  แต่ยังไม่มีการจ่ายเงิน เพราะที่ดินจุดที่เวนคืนไม่มีโฉนด

ในปี 2559 ทายาทของนายเฮียงก็มีการยื่นคำร้องต่อศาลขอเป็นผู้จัดการมรดกอีกครั้ง โดยทายาทขอแบ่งแยกที่ดินจากทางวัด พร้อมทั้งฟ้องขับไล่พระในวัดออกจากที่ดิน 5 ไร่  และร้องขอให้ยกเลิกการให้ที่ดิน 21 ไร่ เจ้าอาวาสจึงได้ทำหนังสือขอความช่วยเหลือไปยังสภาทนายความ สภาทนายความจึงแต่งตั้งให้ตนเป็นทนายความดูแลในกรณีข้อพิพาทดังกล่าว

นายบุญยง แก้วฝ่ายนอก ทนายความ กล่าวอีกว่า  ว่า ในปี 2559 ลูกๆของนายเฮียง ยื่นต่อศาลขอเป็นผู้จัดการมรดก พร้อมทั้งไปยื่นขอแบ่งแยกที่ดินและขอทำโฉนดที่สำนักงานที่ดินอำเภอเมืองขอนแก่น เจ้าอาวาสวัดจึงมอบอำนาจให้สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่น เป็นผู้ดำเนินการในด้านต่างๆให้ เพราะเรื่องแบบนี้ไม่ใช่กิจของสงฆ์ และในวันที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา เจ้าพนักงานที่ดิน ได้นัดผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดไปฟังคำอธิบายรายละเอียดต่างๆที่เกี่ยวข้องกันกับข้อพิพาท หรือการจะแบ่งแยก การทำโฉนดแต่ทางทายาทไม่ฟัง จนกลายเป็นเรื่องลุกลามออกมา กลายเป็นว่าวัดจะขายที่ดินและฮุบที่ดิน ในฐานะทนายความที่ดูแลเรื่องดังกล่าวจึงต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงพร้อมๆกับเจ้าอาวาสในครั้งนี้

ขณะนี้ทุกอย่างก็ว่าไปตามขั้นตอนของกฎระเบียบที่ดิน และตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยเฉพาะการทำโฉนดที่ดิน แปลง 5 ไร่นั้น ถ้ามีผู้ยื่นคัดค้านก็ต้องไปว่ากันที่ศาล แต่ถ้าไม่มีผู้คัดค้านก็สุดแล้วแต่ดุลยพินิจของเจ้าพนักงานที่ดินจะพิจารณาตามความเหมาะสม







เว็บโฮสติ้ง

เว็บโฮสติ้ง   Cloud Web Hosting   Streaming Server   VPS