ขอนแก่น ศรัทธาบุญทั่วไทย ร่วมช่วยเหลือ "คำล้าน" ควายแสนรู้ จากมือเพชฌฆาต (มีคลิป)   


6 มีนาคม 62 17:57:21

ศรัทธาบุญทั่วไทย ร่วมช่วยเหลือ “คำล้าน” กระบือเพศเมียพร้อมลูกวัยสามเดือน รอดจากโรงฆ่าสัตว์ ขณะที่ “หลวงตาน้อย” นำมาเลี้ยงที่วัดเพื่อให้ญาติ-โยมผู้ใจบุญได้มาต่อยอดธนาคารบุญ สร้างฟาร์มโค-กระบือ ที่ไถ่ตัวมาจากเงื้อมือของเพชรฆาต

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 5 มี.ค.2562 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน บ.เลิง ต.โคกสี อ.เมือง จ.ขอนแก่น ว่าได้มีพระภิกษุสงฆ์ นำกระบือเพศเมีย 2 ตัว ซึ่งเป็นแม่ลูกกัน มาทำการลี้ยงไว้ภายในวัดป่าบ้านเลิง และอยู่ในความดูแลของคณะสงฆ์อย่างใกล้ชิด โดยที่คณะสงฆ์ที่วัดแห่งนี้จะต้องหาเงินจำนวน 43,000 บาทไปมอบให้กับนายทุนในพื้นที่ จ.มหาสารคาม เพื่อเป็นค่าไถ่ถอนชีวิตกระบือแม่-ลูกดังกล่าว โดยเงินทั้งหมดจะต้องจ่ายให้กับนายทุนในวันที่ 10 มี.ค.ที่จะถึงนี้ หลังทราบเรื่องผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่เพื่อทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยพบกับ พระมหาวรวุฒิ  ปัญญาวุฒิโร หรือหลวงตาน้อย เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านเลิง กำลังป้อนหญ้าให้กับคำล้าน กระบือเพศเมียวัย 5 ปี อยู่ภายในบริเวณวัด โดยมีกระบือเพศเมียอีกตัววัย 3 เดือน ซึ่งเป็นลูกของเจ้าคำล้านวิ่งเล่นไป-มา ร่วมกันกับฝูงกระบือที่อยู่ในวัดรวมหลายสิบตัว


                
โดยทันทีที่เจ้าคำล้าน เห็นทีมข่าว ได้ทำการสวัสดีด้วยการคลุกเข่าหน้าทั้ง 2 ข้างลงกับพื้นที่ พร้อมทั้งการโค้งคำนับ ทั้งยังคงถอนสายบัว ด้วยการงอเข่าข้างซ้ายลง สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ที่พบเห็นอย่างมาก ว่าทำไมกระบือตัวนี้มีลักษณะที่เชื่อง เข้าใจการสนทนาของคนทั่วไป ทั้งยังคงขี้เล่นด้วยการนำศีรษะและเขา มาจิ้มและถูตามร่างกายของผู้ที่อยู่ใกล้ตลอดเวลา ในขณะที่บางครั้งเจ้าคำล้านก็มีน้ำตาไหลออกมาในลักษณะท่าทางที่ดีใจ ที่ได้รู้ว่าตัวเองนั้นมีชีวิตรอดและอยู่ต่อไปได้แล้วหลังจากพ้นจากเงื้อมือของเพชรฆาตมาได้พร้อมลูกน้อยของตนเอง


                
พระมหาวรวุฒิ  ปัญญาวุฒิโร หรือหลวงตาน้อย เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านเลิง กล่าวว่า เจ้าคำล้านเป็นกระบือเพศเมีย อายุ ประมาณ 6 ปี โดยมีลูกเป็นกระบือเพศเมียวัย 3 เดือนติดมาด้วย ซึ่งเจ้าคำล้านและลูกตัวนี้ เป็นการที่คณะสงฆ์ของวัดรวมทั้งญาติโยมที่มีจิตศรัทธา ได้ทราบเรื่องจากโรงฆ่าสัตว์แห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.มหาสารคามว่า กำลังจะฆ่ากระบือตัวนี้ แต่ด้วยเจ้าคำล้านมีลักษณะท่าทางที่เชื่อง เหมือนกับว่ารู้ภาษาคน และสามารถที่จะสื่อสารกับคนได้ อาตมาจึงตัดสินใจเดินทางไปดูด้วยตนเองที่โรงฆ่าสัตว์ เพื่อหวังที่จะบิณฑบาตสิ่งมีชีวิตนั้นให้อยู่ในโลกใบนี้ต่อไป


                
“เมื่อไปถึงก็พบว่าเจ้าคำล้านนั้นอยู่ในลำดับที่ 10 ของการกำหนดคิวชำแหละในวันที่ 26 ก.พ. จึงได้ไปเจรจากับเจ้าของโรงฆ่าสัตว์ว่าขอบิณฑบาตกระบือตัวนี้ได้มั้ย เจ้าของโรงชำแหละก็บอกว่าได้แต่ต้องนำเงินมาไถ่จำนวน 60,000 บาท ซึ่งเป็นการไถ่ตัวทั้งตัวแม่และลูก ด้วยความเป็นพระสงฆ์และญาติโยมที่ทราบเรื่องต่างต้องการช่วยเหลือเพราะเมื่อไปถึงก็พบว่าเจ้าคำล้านนี้นั้นนอนอยู่กับพื้นที่โรงชำแหละในลักษณะที่รอคิวตาย ใกล้กันก็มีโครงกระดูกของโคและกระบือที่ชำแหละแล้ววางทิ้งไว้ ซึ่งโคและกระบือที่รอคิวชำแหละนั้นทุกตัวร้องไห้ตลอดเวลา เหมือนกับรู้ว่าถึงคิวของตัวเองที่ต้องตายแล้ว จึงตัดสินใจต่อรองราคาอีกครั้งจนได้ข้อสรุปที่ 43,000 บาท แต่ด้วยการที่ไม่มีเงินและเจ้าของโรงชำแหละใจดี จึงขยายเวลาในการชำระเงินค่าไถ่ชีวิตกระบือแม่-ลูกคู่นี้ ไปจนถึงวันที่ 10 มี.ค."


                
พระมหาวรวุฒิ กล่าวต่ออีกว่า เมื่อเจรจาตกลงได้แล้ว จึงขอนำเจ้าคำล้านและลูกมาเลี้ยงดูที่วัด เพราะสงสารหากยังคงต้องดูเพื่อร่วมชะตากรรมทยอยตายไปในแต่ละวัน จึงวานญาติโยมนำรถไปขนเจ้าคำล้านและลูกมาไว้ที่วัดเมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา ก่อนที่ลูกศิษย์จะทำการโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กและเผยแพร่ไปในโลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆ เพื่อให้สาธุชนได้ร่วมทำบุญ ซึ่งเมื่อเผยแพร่ข้อความออกไปยอมรับว่าได้รับการติดต่อจากคลื่นศรัทธาบุญทั่วทั้งประเทศ ทุกคนต่างต้องการที่จะร่วมทำบุญตามกำลังศรัทธา และวันนี้ยอดเงินในการไถ่ชีวิตเจ้าคำล้านและลูก นั้นครบแล้ว และมีวงเงินที่เกินมาอยู่ประมาณ 30,000 บาท ซึ่งส่วนที่เกินมานี้นั้นจะนำไปดำเนินงานตามโครงการธนาคารบุญเพื่อไถ่ชีวิตให้กับโค-กระบือ ในพื้นที่ภาคอีสาน


                
“จากการดำเนินโครงการธนาคารบุญ ไถ่ชีวิตโค-กระบือ ที่วัดได้ดำเนินการมาเกือบ 1 ปี ด้วยเงินบริจาคจากญาติโยม และผู้มีจิตศรัทธา ทำให้วันนี้ที่วัดมีโคจำนวน 24 ตัว กระบือ 17 ตัว ที่อยู่ในการดูแลของวัด ทำให้ต้องมีการจัดสรรพื้นที่ของวัดเป็นพื้นที่ฟาร์มสำหรับการเลี้ยงดูโคและกระบือที่ได้ไถ่ชีวิตมา ซึ่งหากมีประชาชนที่ยากไร้ต้องการมาขอโคและกระบือไปทำมาหากินหรือยืมไปใช้ในการเกษตรก็สามารถที่จะมาติดต่อกับทางวัด โดยจะมีคณะกรรมการและสาธุชนที่รับผิดชอบนั้นเป็นผู้พิจารณา ขณะที่อาหารที่นำมาเลี้ยงนั้นก็ได้มาจากการที่มีผู้มีจิตศรัทธามาบริจาค บางคนซึ่งปลูกหญ้าขาย ก็เอาหญ้า 1 คันรถ มาขอแลกกับขี้วัว 1 คันรถ ซึ่งทางวัดก็ไม่ขัดข้อง เพราะวัดและชุมชนต่างต้องการที่จะให้ความช่วยเหลือสิ่งมีชีวิตที่กำลังจะตายได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง”

 







เว็บโฮสติ้ง

เว็บโฮสติ้ง   Cloud Web Hosting   Streaming Server   VPS