"ขนมจีนจิ้งหรีดน้ำยาป่า" เมนูเด็ดบ้านแสนตอ ขอนแก่น (มีคลิป)
"ขนมจีนจิ้งหรีดน้ำยาป่า" เมนูเด็ดบ้านแสนตอ ขอนแก่น
แซ่บสะใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเมนูเส้น อิ่ม อร่อย ได้โปรตีนในราคาสบายกระเป๋า
ในการเปิดศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ที่ บ.แสนตอ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น หมู่บ้านที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหมู่บ้านเลี้ยงจิ้งหรีดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนแห่งนี้มากถึงปีละกว่า 1,600,000 บาท ทั้งการจำหน่ายในรูปแบบของจิ้งหรีดสด, จิ้งหรีดอบแห้ง หรือแม้กระทั่งการแปรรูปจิ้งหรีดให้เป็นสินค้าขนมหรืออาหารในเมนูต่างๆตามความต้องการของตลาด เกษตรกรผู้เลี้ยงจิ้งหรีดบ้านแสนตอก็สามารถที่จะรังสรรค์สินค้าตรงตามความต้องการของตลาดได้ทั้งหมด แต่ที่กำลังเป็นที่ชื่นชอบและได้รับความสนใจ ด้วยการนำจิ้งหรีดมาเป็นส่วนผสมของอาหารประจำถิ่น ตามสูตรที่คิดค้นขึ้นของศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จ.ขอนแก่น กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คือ เมนูขนมจีนจิ้งหรีดน้ำยาป่า ที่วันนี้สามารถรับประทานได้แล้วที่ บ.แสนตอ แห่งนี้
นายอุดม ชื่นตา ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ปัจจุบันที่ บ.แสนตอแห่งนี้มีการเพาะเลี้ยงจิ้งหรีด รวม 3 สายพันธุ์ ประกอบด้วย พันธุ์ทองดำ, ทองแดงลาย และ พันธุ์ทองแดง เดิม ทำกรเพาะเลี้ยงเพื่อจำหน่ายในรูปแบบของจิ้งหรีดสดและจิ้งหรีดอบแห้ง แต่วันนี้มีการนำจิ้งหรีดมาทำการวิจัยและวิเคราะห์ ในกลุ่มธุรกิจอาหาร ที่ให้โปรตีนสะอาด ซึ่งจิ้งหรีด อาหรประจำถิ่นของคนอีสานสามารถที่จะตอบโจทย์การเป็นโปรตีนสะอาดและอาหารพลังงานทดแทนได้อย่างดี จึงกลายมาเป็นส่วนผสมของอาหารที่ศูนย์ฯได้ร่วมกันกับชุมชนทำการจัดทำเป็นเมนูอาหารประจำถิ่นขึ้นคือขนมจีนจิ้งหรีดน้ำยาป่า
“จิ้งหรีดที่นำมาใช้นั้นเป็นจิ้งหรีดป่นอบแห้ง ซึ่งจิ้งหรีดอบแห้ง เมื่อนำมาปั่นจนป่น จะอยู่ที่สัดส่วน จิ้งหรีดอบแห้ง 5 กก.ได้จิ้งหรีดป่นละเอียด 1 กก. และเมื่อนำมาทำตามขั้นตอนของการทำเป็นเมนูขนมจีนจิ้งหรีดน้ำยาป่า ที่นักวิชาการการเกษตรได้คิดค้นขึ้นนั้นมีส่วนผสมที่ประกอบด้วย แป้งทำขนมจีนสำเร็จรูป 1 กก. ต่อผงจิ้งหรีด 200 กก. โดยนำมาผสมรวมกันด้วยการนวดด้วยมือให้เข้ากัน จากนั้นนำแป้งที่มีการผสมกับผงโปรตีนจิ้งหรีดแล้ว นำไปใส่เครื่องบีบเส้น ขั้นตอนต่อมาคือตั้งน้ำจนเดือด และใช้เครื่องบีบเส้นที่บรรจุแป้งขนมจีน ทำการบีบเส้นสดๆ ลงในน้ำเดือด จากนั้นพักไว้ประมาณ 3-5 นาทีจนเส้นสุดและให้รีบตักาพักไว้ในน้ำเย็น ก่อนที่จะทำการทำหัวขนจีนตามแบบโบราณด้วยนิ้วมือซึ่งก็จะได้ขนมจีนจิ้งหรีดเส้นสดน่ารับประทานในสีที่สวยงาม ต่อมาถือว่าเป็นทีเด็ดที่คนในชุมชนได้รังสรรค์ขึ้นคู่ขนานกับผลงานทางวชการคือการทำน้ยาขนมจีน ที่เรียกได้ว่าสามารถรับประทานได้ที่ บ.แสนตอแห่งนี้แห่งเดียวเท่านั้น เพราะมีการนำจิ้งหรีดเป็นส่วนผสมของน้ำยาขนมจีนอีกด้วย”
นายอุดม กล่าวต่ออีกว่า สำหรับน้ำยาป่าจิ้งหรีด สำหรับเมนูขนมจีนจิ้งหรีดน้ำยาป่า นี้นั้นเครื่องปรุงและเครื่องเทศ ต่างๆนั้นมีส่วนผสมเช่นเดียวกันกับการทำน้ำยาป่าขนมจีนทั่วไป แต่ที่พิเศษที่สุดคือการใช้จิ้งหรีดสด 1 กก. นำมาต้มจนสุกและปั่นจนละเอียด ควบคู่กับการใช้ปลาทู 2 เข่งที่ต้มจนสุกและนำมาแกะเอาแต่เนื้อและปั่นจนละเอียดเช่นกัน ซึ่งในช่วงของการต้มเครื่องเทศจนสุกเดอืดพล่าน ให้ใส่เนื้อปลาทูปั่นลงไปต้มจนน้ำเดือดและใส่เนื้อจิ้งหรีดปั่นลงไปและต้มจนเดือดอีกครั้ง ก่อนที่จะปรุงรสตามใจชอบของการเป็นน้ำยาป่าพื้นบ้าน ตกแต่งด้วยพริกสดและต้นหอม ก็จะได้น้ำยาขนมจีนสูตรเฉพาะตัวของเมืองขอนแก่นแห่งนี้
“เมื่อเส้นขนมจีนจิ้งหรีด ที่ทำเป็นหัวสวยงามแล้ว ก็จะถูกจัดเสริฟใส่จานที่เตรียมไว้ ราดด้วยน้ำยาป่าจิ้งหรีด โรยหน้าด้วยผักตามใจชอบว่าจะเป็นถั่วฝักยาว,ใบแมงลัก,กระหล่ำปลีซอย และถั่วงอก แต่ที่ขาดไม่ได้คือการโรยหน้าด้วยจิ้งหรีดทอดกรอบลงไปก็จะทำให้ขนมจีนจิ้งหรีดน้ำยาป่า นั้นพร้อมเสริฟได้เลยทันที อย่างไรก็ตามนอกจากเมนูขนมจีนจิ้งหรีดน้ำยาป่าแล้ว ศูนย์ฯยังคงร่วมกับชุมชนแห่งนี้ทำการแปรรูปจิ้งหรีดให้เป็นสินค้าในธุรกิจอาหาร อาทิ คุกกี้จิ้งหรีด,ข้าวเกรียบจิ้งหรีด,ห่อหมกจิ้งหรีด,จิ้งหรีดทอด,แกงส้มหน่อไม้จิ้งหรีด,ปอเปี๊ยะจิ้งหรีด และที่กำลังได้รับความนิยมและเมมียอดสั่งซื้อคือบราวนี่จิ้งหรีด เพราะจิ้งหรีดนั้นจัดเป็นแมลงที่เป็นแหล่งอาหารโปรตีนใหม่ในอนาคตที่น่าสนใจอีกด้วย ทั้งนี้หากต้องการลองชิมเมนูที่ผิตจากจิ้งหรีดสามารถเดินทางมาชิมได้ที่ บ.แสนตอ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น หรือ ที่ศูนย์ส่งเริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จ.ขอนแก่น หมายเลขโทรศัพท์ : 043 009 958 “
